สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มลดลง เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 แก่ประชาชน เตรียมปรับรูปแบบการรับมือโรคโควิด-19 แบบโรคประจำถิ่น
วันนี้ (26 เม.ย. 65) ที่ห้องประชุม 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์ ของจังหวัดเชียงใหม่ในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ ว่า ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มลดลง โดยพบจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์เพียง 1-2 วันเท่านั้น และหลังจากนั้นมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเป็นอย่างนี้ต่อไปก็จะส่งผลให้สถานการณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้นตามลำดับ รวมถึงผู้ป่วยที่ทำการรักษาแบบ Home Isolation หรือ HI มีจำนวนลดลงเป็นอย่างมาก และผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจก็มีจำนวนลดลงเช่นเดียวกัน ทำให้ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่มีเตียงว่างสามารถรองรับผู้ป่วยวิกฤติมากถึงร้อยละ 55
ทั้งนี้ในภาพรวมของประเทศไทยได้มีการเตรียมปรับรูปแบบในการรับมือโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น โดยแบ่งกลุ่มจังหวัดออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มจังหวัดที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อยังอยู่ในช่วงขาขึ้น กลุ่มจังหวัดที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อยังคงทรงตัวอยู่ และกลุ่มจังหวัดที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในกลุ่มจังหวัดที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง โดยจะต้องเตรียมความพร้อมในด้านการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้มากกว่าร้อยละ 60 ขึ้นไป ใช้การดูแลผู้ป่วยแบบ Home Isolation หรือ HI เป็นหลัก มีเตียงว่างสามารถรองรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักได้เพียงพอ และมีอัตราการเสียชีวิต น้อยกว่าร้อยละ 0.1 ซึ่งที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่มกราคม 2565 ของจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนทั้งสิ้น 171 ราย ส่วนมากเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และยังไม่ได้รับวัคซีนหรือยังได้รับวัคซีนไม่ครบโดส ดังนั้นการกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีนเข็ม 3 นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ไปแล้ว 654,607 คน โดยได้กระจายวัคซีนไปยังศูนย์ฉีดต่างๆ ทั้งโรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้ประชาชนสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้อย่างทั่วถึง เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และลดอัตราการป่วยหนักได้ถึงร้อยละ 99
ด้านมาตรการรองรับการเปิดภาคเรียนในเดือนพฤษภาคม ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจกับสถานศึกษาต่างๆ พร้อมปรับแนวทางให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยจะต้องผ่านการประเมิน Thai Stop Covid Plus โดยนักเรียน ครู และบุคลากร จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้นักเรียนที่มีอายุ 12-17 ต้องได้รับวัคซีนเข็ม 3 และเร่งฉีดวัคซีนให้แก่เด็กที่อายุ 5-11 ปี หากพบนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 จะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่