ตำรวจลำพูน นำตัวผู้ต้องหาชิงทองร้านทองนริศรา รายที่ 2 ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เผยหลังก่อเหตุขึ้นเครื่องบินหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ วางแผนหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้านแต่มาถูกจับกุมตัวเสียก่อน

1378

ตำรวจลำพูน นำตัวผู้ต้องหาชิงทองร้านทองนริศรา รายที่ 2 ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เผยหลังก่อเหตุขึ้นเครื่องบินหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ วางแผนหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้านแต่มาถูกจับกุมตัวเสียก่อน

วันที่ 27 เม.ย. 65 พ.ต.อ.ดนัย ใจกล่ำ ผกก.สืบสวนภูธรจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธร จ.ลำพูน นำตัวนายนพรัตน์ เอี่ยมสะอาด อายุ 35 ปี หนึ่งในสองผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นร้านทองนริศรา สาขาตลาดจตุจักร มาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เหมืองจี้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน มาสอบปากคำเพิ่มเติม

c7e2c1b2441827d23f01511315c0492b.jpg

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา นายนพรัตน์ เอี่ยมสะอาด อายุ 35 ปี หนึ่งในสองผู้ต้องหาที่ร่วมกับนายศุภกร แก้วเกิด หรือเฮียแดง หรือชื่อในวงการพนันว่า เฮียยุต อายุ 64 ปีขับรถยนต์กระบะใช้อาวุธปืนลูกซองยาวและอาวุธปืนสั้นแบบลูกโม่จี้ชิงทองร้านทองนริศรา กาดจตุจักร ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ได้ทองรูปพรรณไปน้ำหนักรวม 53 บาท และหลังก่อเหตุนายศุภกร ได้นำทองไปซุกซ่อนไว้ในบ้านและเป็นที่ทำการบริษัทรีไซเคิ้ล แล้วเปลี่ยนรถพานายนพรัตน์ไปส่งขึ้นเครื่องบินที่สนามบินเชียงใหม่ไปลงที่ดอนเมือง เพื่อหลบหนีโดยได้สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาทติดไป 1 เส้น นอกนั้นนายศุภกรเก็บซุกซ่อนไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกดดันอย่างหนัก จนกระทั่งให้ลูกสาวกล่อมให้มอบตัว ต่อมาหลังก่อเหตุได้เพียง 5 ชั่วโมงเศษ นายศุภกรได้ยอมมอบตัวโดยขับรถยนต์กลับมาที่บ้านเพื่อมอบตัว และสารภาพว่าได้เป็นผู้ก่อเหตุจี้ชิงทองจริงร่วมกับนายนพรัต ซึ่งเป็นหลานของตัวเอง และเคยมีประสบการณ์ในการปล้น และถูกจับกุมติดคุกที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก 15 ปี พึ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เดิมทีนั้นได้ชวนคนรู้จักอีกคนหนึ่ง เพื่อร่วมกันปล้น แต่อีกคนมาดูลาดเลาแล้วเกิดถอดใจไม่ขอร่วมปล้นครั้งนี้ ขอถอนตัวกลับไปก่อน นายศุภกรจึงร่วมกับนายนพรัตน์หลานชายเพียงสองคน

81ffa0b335a152b43e816b100b50374e.jpg

หลังก่อเหตุจากนั้นนายนพรัตน์หลบหนีโดยขึ้นเครื่องที่สนามบินเชียงใหม่ลงสนามบินดอนเมือง แล้วหลบหนีวนเวียนอยู่ในกรุงเทพ และได้ปิดมือถือ แต่ยังเล่นเฟสอยู่โดยเข้ามาตอบคอมเมนต์เพื่อนในเฟสบุ๊ค ส่วนตัว เป็นสติกเกอร์ แล้วหลอกล่อเจ้าหน้าที่โดยการเช็กอินอยู่แถวกรุงเทพแต่ได้หลบไปอยู่ที่วัดไก่เตี้ย หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านรุน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสืบทราบว่ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในวัดจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บุกเข้าจับกุมได้ ที่วัดดังกล่าวเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ จากการสอบสวนนายนพรัตน์ทราบว่ากำลังเตรียมตัวหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาถึง สภ.เหมืองจี้

ต่อมา พล...มงคล สัมภวะผล ผู้บังคับการตำรวจภูธร .ลำพูน พร้อมด้วย ...สามพราน จันทร์มั่งคั่ง ผู้กำกับการ สภ.เหมืองจี้ ได้นำตัวนายนพรัตน์ฯ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทองนริศรา สาขาตลาดจตุจักร โดยนายนพรัตน์ ได้เป็นคนที่กระโดดข้ามตู้ทองข้ามไปหยิบทองรูปพรรณทั้งหมดโยนให้นายศุภกร ก่อนที่จะเดินออกมาหยิบทองรูปพรรณจำนวน 5 บาทจากคอหุ่น ออกมาและนำติดตัวไป จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายนพรัตน์ ไปชี้จุดที่เปลี่ยนรถในโรงงานรับซื้อของเก่าของนายศุภชัย ที่บ้านหนองซิว .ป่าสัก .เมือง .ลำพูน ก่อนที่นายศุภกรจะส่งตัวนายนพรัตน์ ขึ้นเครื่องบินหนีไปกรุงเทพจนถูกจับกุมตัวในที่สุด ซึ่งก่อนที่คนร้ายทั้งสองจะก่อเหตุได้ขับรถมาดูลาดเลาหลายครั้ง ซึ่งก่อนที่จะลงมือปล้นคลาดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ขี่รถมาตรวจ ไม่กี่นาทีเท่านั้นซึ่งขณะนั้นคนร้ายรอจังหวัดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจขี่รถออกไปจากที่เกิดเหตุจึงลงมือปล้น

5bc5b14e0697facd114f80fb56358fe9.jpgb0533b084a4d8c23fd5038b2e80fc4ab.jpg8a603617e6567b4393f7b6b3ad971905.jpg