รมว.คลัง ลงนามสัญญากู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่น วงเงิน 5 หมื่นล้านเยน บรรเทาผลกระทบโควิด-19 ยืนยันเป็นการกู้ภายใต้กรอบ พรก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ไม่ใช่กู้ใหม่

475

รมว.คลัง ลงนามสัญญากู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่น วงเงิน 5 หมื่นล้านเยน บรรเทาผลกระทบโควิด-19 ยืนยันเป็นการกู้ภายใต้กรอบ พรก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ไม่ใช่กู้ใหม่

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและ Mr. Morita Takahiro ผู้แทนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) ได้ร่วมกันลงนามในสัญญาเงินกู้สำหรับ COVID-19 Crisis Response Emergency Support Loan วงเงิน 50,000 ล้านเยน ณ กระทรวงการคลัง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

กระทรวงการคลังได้ดำเนินการลงนามในสัญญาเงินกู้ COVID-19 Crisis Response Emergency Support Loan ของรัฐบาลญี่ปุ่นผ่าน JICA วงเงิน 50,000 ล้านเยน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 อายุเงินกู้ 15 ปี มีระยะเวลาปลอดเงินต้น (Grace Period) 4 ปี ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นให้เงินกู้แก่ประเทศต่างๆ เพื่อใช้สำหรับแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งการกู้เงินดังกล่าวเป็นการดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก. โควิด เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) โดยการลงนามในสัญญาเงินกู้ดังกล่าวเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากการลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่น (Exchange of Notes) และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ระหว่างนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและ Mr. Kazuya Nashida เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

การกู้เงินครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศในหลากหลายมิติซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.ก. โควิด เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 เพื่อใช้สนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุขในการป้องกันและรักษาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน การรักษาระดับการจ้างงานจากผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นอกจากนี้ การกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นในครั้งนี้จะช่วยลดการแย่งชิงทรัพยากรจากตลาดการเงินในประเทศ (Crowding Out) และเป็นการเพิ่มแหล่งเงินทุนระยะยาวที่มีต้นทุนต่ำเพื่อช่วยประหยัดภาระดอกเบี้ยของรัฐบาล รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาขยายตัวอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่น เงินกู้ก้อนนี้ อยู่ในยอด พ.ร.ก. 5 แสนล้านบาท ที่อนุมัติไปแล้ว การกู้เงินค่อยๆ ทยอยกู้ตามความจำเป็น จากแหล่งเงินกู้ในประเทศเป็นหลัก แต่ทางญี่ปุ่นเขามาช่วยตรงนี้ ถ้าเราจะกู้ก็จะได้ดอกเบี้ยต่ำ แต่มีข้อแม้ว่าต้องนำมาดูแลในเรื่องโควิด อย่าบอกว่ารัฐบาลกู้เงินอีกแล้วเลย ทุกคนต้องเข้าใจว่าเราบริหารด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุดแล้ว ในเรื่องการบริหารการเงินการคลังเราเข้มแข็งอยู่ ถ้าไม่เข้มแข็งพอขอใครเขาก็ไม่ให้กู้เรากู้เท่าที่จำเป็น