ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ย้ำผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดได้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้ ขอฝ่ายปกครองเข้มงวดการเปิดบริการให้เป็นไปตามกำหนด

358

ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ย้ำผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดได้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้ ขอฝ่ายปกครองเข้มงวดการเปิดบริการให้เป็นไปตามกำหนด

วันที่ 24 พ.ค. 65 ที่ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งพบว่าสถานการณ์ช่วงนี้ดีขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้เสียชีวิต และผู้ป่วยหนักลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของการเปิดเรียนแบบ On Site ของสถานศึกษา ในจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงเป็นไปได้ด้วยดี ไม่พบสัดส่วนการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น โดย ได้เน้นย้ำให้สถานศึกษาทุกแห่ง ชี้แจง ทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง ในการให้บุตร-หลาน เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง และลดการป่วยรุนแรงเมื่อติดเชื้อโควิด-19 พร้อมทั้งขอให้เข้มงวดในมาตรการป้องกันโรคของนักเรียน ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และการเว้นระยะห่างขณะทำการเรียนการสอน หรือ การทำกิจกรรมร่วมกัน

ด้านการเปิดให้บริการผับ บาร์ คาราโอเกะ จังหวัดเชียงใหม่จะอนุญาตให้เปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ตามประกาศของ ศบค. ทั้งนี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำไปยังฝ่ายปกครอง ให้เข้มงวด กวดขัน การเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้เป็นไปตามกำหนด หากในช่วงนี้พบสถานประกอบการใดเปิดให้บริการก่อนกำหนด ถือว่าฝ่าฝืน และมีความผิดตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ในช่วงนี้ยังต้องเฝ้าระวัง “โรคฝีดาษลิง” (Monkeypox) ซึ่งกรมควบคุมโรค ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข เพื่อยกระดับการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ภายหลังพบการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในหลายประเทศ และแม้จะยังไม่มีการระบาดในประเทศไทย แต่กรมควบคุมโรค ได้มีมาตรการเฝ้าระวังที่สนามบิน เพื่อคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการระบาด เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจจับกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็ว เนื่องจากในระยะนี้เป็นช่วงที่เริ่มเปิดให้มีการเดินทางเข้าประเทศได้มากขึ้น และเป็นช่วงเตรียมการเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นของโรคโควิด-19 โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้สถานพยาบาลแต่ละแห่งได้มีการตื่นตัว เตรียมมาตรการเฝ้าระวังโรค และมีระบบตรวจหาเชื้อผู้ที่เดินทางเข้ามาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโรคดังกล่าว ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการตุ่มขึ้นตามลำตัว และจากการสอบสวนโรคพบว่าเป็นโรคติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง ซึ่งกว่าจะพ้นระยะแพร่เชื้อจะต้องรอให้สะเก็ดสุดท้ายตกสะเก็ดก่อน ดังนั้น จึงขอให้ทุกฝ่ายได้ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด