ตร.ภาค 5 นำกำลังบุกตึกแถวย่าน อ.สันทราย เปิดเป็นที่กบดานแก๊งคอลเซนเตอร์ ลวงคนไทยสมัครทำงานอ้างเงินเดือนสูง ก่อนเอามาฝึกวิชาให้เป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ หากผ่านโปรจะถูกส่งไปทำงานที่เมียนมา
เมื่อช่วงสายวันที่ 8 มิ.ย. 65 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นำกำลังกว่า 30 นาย บุกเข้าตรวจสอบตึกแถวขนาด 3 ชั้น ของโครงการแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ภายหลังการสืบสวนทราบว่าตึกดังกล่าว เป็นที่กบดานทำการของแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่มีชาวจีน มาเช่าไว้ให้กลุ่มดังกล่าวคอยอาศัย และทำงาน
โดยในการบุกเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ พบว่าที่บริเวณชั้น 2 ของตึก มีกลุ่มวัยรุ่น หญิง-ชาย คนไทย จำนวน 5 คน และชาวจีนอีก 2 คน กำลังทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีกว่า 8 ตัว โดยแต่ละเครื่องพนักงานจะโพสต์เชิญชวนให้ประชาชนที่ตกงาน และกำลังว่างงาน หลอกลวงให้มาสมัครงาน โดยอ้างว่ามีเงินเดือนสูง ที่หากผู้สนใจเข้ามาสมัครเริ่มแรกจะให้ฝึกงานที่เชียงใหม่ แล้วหากผ่านโปรก็จะถูกส่งไปทำงานที่เมียวดี ประเทศเมียนมา
นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่ามีการโพสต์ แอบอ้างอีกว่า หากใครสนใจยังสามารถพาข้ามแดนไทย-เมียนมา รับรองความปลอดภัยให้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องทั้งหมดไว้ พร้อมด้วยของกลาง ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันทราย ดำเนินคดีในข้อหา พรบ.คอมพิวเตอร์ นำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
โดยทาง พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า พฤติกรรมของแก๊งดังกล่าว จะมีคนจีนมาเปิดห้องเช่า หรือตึกแถวไว้ แล้วทำเป็นห้องทำงาน หลังจากนั้นก็จะรับบรรดา หญิง-ชาย โดยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น เข้ามาทำงาน โดยจะโพสต์เชิญชวนในลักษณะต่างๆ เมื่อมีคนสนใจเข้ามาสมัคร จะนำเข้ามาโรงเรียนสอนเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ไม่ใช่งานที่บอกตั้งแต่ตอนแรก และเมื่อผ่านการฝึกสอนก็จะส่งตัวไปประเทศเพื่อนบ้าน และให้ทำการไล่โทรไปตามบัญชีรายชื่อทั้งคนไทย และคนจีน หลอกทุกประเภท อาทิหลอกให้แอดไลน์รับโชค สมัครงาน ได้รับรางวัล หลอกรักออนไลน์ รวมถึงการหลอกลวงต่างๆ นานา เพื่อเอาเงินจากผู้หลงเชื่อ โดยที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมมาแล้วในพื้นที่หลายจังหวัด และกลุ่มแก๊งเหล่านี้ยังสร้างความเดือดร้อน เสียหายไปทั่วอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนประชาชนว่าหากมีเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยหรือเบอร์แปลก ติดต่อมาในลักษณะที่กล่าวไป ให้รู้ว่าเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ และอย่าหลงเชื่อ เพราะอาจถูกหลอกลวงได้ และหากมีเบาะแสก็สามารถแจ้งข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกพื้นที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบ จับกุมดำเนินคดีได้