ทส.แจงประกาศกำหนดมาตรฐาน “เตาเผาศพ” เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะชุมชนใกล้วัดที่ได้รับผลกระทบ นอกเขตเทศบาลเมืองผ่อนปรน 3 ปี

231

ทส.แจงประกาศกำหนดมาตรฐาน “เตาเผาศพ” เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะชุมชนใกล้วัดที่ได้รับผลกระทบ นอกเขตเทศบาลเมืองผ่อนปรน 3 ปี

วันที่ 23 มิ.ย. 65 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเขม่าควันและกลิ่นจากการเผาศพมีอยู่เป็นระยะ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดซึ่งมีการเผาศพจำนวนมากและมีการเผาพร้อมกันหลายวัด  บางวัดเตาเผาศพยังไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะในเขตชุมชนได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นจากการเผาศพ  ได้แก่ กลิ่น  ควัน รวมถึงฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน(PM2.5) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และขี้เถ้าจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง ซึ่งมาจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์หรืออุณหภูมิไม่สูงพอ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนและมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในชุมชนใกล้เคียง สำหรับองค์ประกอบของกลิ่นเผาศพจะประกอบด้วยก๊าซหลายชนิด เช่น แอมโมเนีย ไฮโดรเจนซัลไฟด์ เมอร์แคปแทน และฟอร์มาลดีไฮด์จากนํ้ายารักษาศพ เป็นต้น

นายอรรถพล กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมมลพิษ  เห็นสมควรปรับปรุงการกำหนดให้เตาเผาศพเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ ที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียออกสู่สิ่งแวดล้อม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 โดยได้ประสานงานพร้อมประชุมรับฟังความคิดเห็นกับสำนักงานสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติและจากทุกภาคส่วน  และเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดให้เตาเผาศพเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ ที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสีย ออกสู่สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2565 เมื่อวานนี้(วันที่ 22 มิถุนายน 2565) โดยประกาศนี้ให้ใช้บังคับกับเตาเผาศพในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา เขตเทศบาลนครและเขตเทศบาลเมือง ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และในเขตพื้นที่อื่น ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามปี นับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ปัจจุบันมีจำนวนวัดทั่วประเทศทั้งหมด 42,655 วัด มีจำนวนเตาเผาศพประมาณ 25,500 เตา เป็นเตาเผาศพในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา เทศบาลนคร และเทศบาลเมือง ประมาณ 8,000 เตา และเป็นเตาเผาศพในพื้นที่อื่น  ประมาณ 17,500 เตา  และจากการสำรวจของ คพ. พบว่าเตาเผาศพในกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่สามารถควบคุมมลพิษได้ตามมาตรฐานอยู่แล้วเนื่องจากเป็นเตาเผาแบบ 2 ห้องเผาแล้ว และผู้ควบคุมเตาเผาศพปลอดมลพิษ จะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิตลอดการเผาศพให้สูงกว่า 800 องศาเซลเซียส ซึ่งหากมีการจัดการและควบคุมเตาที่ดีจะสามารถเผาและทำลายสารมลพิษทางอากาศ รวมทั้งควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคและไม่สร้างผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน นายอรรถพล  กล่าว