ไทยลงนาม MOU ร่วมกัมพูชา ผนึกกำลังปราบ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์”
วันที่ 11 ก.ค. 65 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายเจีย วันเดค (Mr. Chea Vandeth) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมหารือทวิภาคีและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊ง Call Center และ Hybrid Scam ณ กระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคม กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีคณะทำงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศเข้าร่วม
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า หลังจากการลงนาม MOU ครั้งนี้ จะมีการตั้งคณะทำงานที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีกระบวนการทำงานจากตรวจสอบจากข้อร้องเรียนว่ามีคนร้ายขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่จุดไหน จะมีการร่วมกันเข้าจับกุมปราบปรามคนร้าย ส่งกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทราบพิกัดการกระทำผิดจะมีการปิดกั้นสัญญาณและเข้าจับกุม
“การตั้งคณะทำงานร่วมจะทำให้การระบุพิกัด การดำเนินคดี การส่งผู้ร้ายข้ามแดนทำได้เร็วขึ้น เชื่อว่าถ้ากระบวนการนี้สำเร็จ แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะทำงานได้ยากขึ้นและจะหมดไปในที่สุด” นายชัยวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังกล่าวขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชา ที่ให้ความร่วมมือและใส่ใจในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอย่างมาก ทำให้ไทยสามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ เป็นผลมาจากความสัมพันธ์อันดีเยี่ยมของทั้งสองประเทศ
นายชัยวุฒิ ย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่ในระดับกระทรวงระหว่างประเทศเท่านั้น แต่เป็นการประสานงานกันตั้งแต่ในระดับนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และทางนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ขอความร่วมมือให้ช่วยกันแก้ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไปให้ได้ เชื่อว่าความร่วมมือของทั้ง 2 รัฐบาลจะทำให้งานนี้สำเร็จแน่นอน
Mr.Chea Vendeth รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการไปรษณีย์ฯ กัมพูชา กล่าวว่า เป้าหมายของการลงนาม MOU ครั้งนี้เพื่อทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และกิจกรรมผิดกฎหมายทั้งหมดในกัมพูชาและหมดไป เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการทำงานร่วมกันหลังจากนี้จะมีประสิทธิภาพและสามารถปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายได้จริง
นอกจากนี้ Mr.Chea ยังย้ำว่า ผู้นำของทั้งสองประเทศ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฉันเซน นายกรัฐมนตรีของทั้ง2ประเทศ ได้เน้นย้ำให้ทำงานร่วมกัน เพราะเราต่างมีความสัมพันธ์ที่แน่นเฟ้นเป็นอย่างดียิ่ง จะทำให้การปราบปรามอาชญากรรมครั้งนี้ราบรื่นได้ตามเป้าประสงค์อย่างแน่นอน
ซึ่งการลงนามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้เป็นผลลัพธ์สำคัญจากการหารือและดำเนินการร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 หลังจากที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากจากการถูกหลอกลวงจากคนร้ายแก๊ง Call Center แก๊งหลอกชักชวนให้ร่วมลงทุน และแก๊งพนันออนไลน์หลายเว็บไซต์ โดยปัญหาดังกล่าวได้ทวีความรุนแรงและสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องแก่ประชาชนชาวไทยและหน่วยงานภาครัฐที่ถูกแอบอ้าง ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้ดำเนินการจากประเทศกัมพูชา จึงนำมาสู่การหารือแบบทวิภาคีและการลงนาม MOU ร่วมกันในวันนี้