ครม. เห็นชอบปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต “น้ำมันดีเซล” ลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน

350

ครม. เห็นชอบปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต “น้ำมันดีเซล” ลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน

​นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ถึง 20 กันยายน 2565 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจในช่วงที่ระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงทรงตัว ในระดับสูง

​ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่กระทรวงการคลังมอบหมายให้กรมสรรพสามิตดำเนินมาตรการเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพและต้นทุน ในการประกอบกิจการต่าง ๆ โดยปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา โดยมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 แต่เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกผันผวนและยังคงทรงตัวในระดับสูง ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นจนกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนและภาคธุรกิจ ดังนั้น จำเป็นต้องใช้มาตรการทางภาษีไปอีกระยะหนึ่งเพื่อช่วยลดระดับราคาขายปลีกของน้ำมันดีเซลไม่ให้สูงจนกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงเสนอปรับลดอัตราภาษีสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ถึง 20 กันยายน 2565

​นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวสรุปว่า การใช้มาตรการภาษีดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการในระยะสั้น และถ้าหากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มคลี่คลาย รัฐบาลยังคงใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกหลักในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพื่อไม่ให้กระทบ ต่อค่าครองชีพของประชาชนและเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่อไป