เชียงใหม่ หลักฐานชัด หนุ่มอังกฤษกุเรื่องถูกแท็กซี่แทง ที่แท้เมาหนักกระโดดปีนรั้วชาวบ้านจนถูกสังกะสีบาด ที่เกิดเหตุพบคราบเลือด รั้วสังกะสีมีรอยยุบ ชาวบ้านในที่เกิดเหตุยันไม่พบคนวิ่งไล่ตามทำร้าย
วันที่ 29 ก.ค.65 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีกระแสข่าวที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียล ที่มีการแชร์ข่าวน่าตกใจ โดยระบุว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ถูกแท็กซี่ทำร้ายเพราะไม่พอใจที่ไม่ใช้บริการ หลังกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านถนนราชวิถี ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 01.52 น. วันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวมีบัตรแผลถูกบาดด้วยของมีคมที่ฝ่ามือ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ และ ให้การยืนยันกับตำรวจท่องเที่ยวว่าถูกทำร้ายและโทรศัพท์มือถือหายไป ซึ่งข่าวที่ถูกเผยแพร่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่
ขณะที่ล่าสุดในวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบหลักฐานยืนยันว่า นายแดเนียล นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อายุ 30 ปี ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย แต่มีบาดแผลได้รับบาดเจ็บจากการปีนรั้วร้านกาแฟและเกสต์เฮ้าส์ในซอย 11 ถนนพระปกเกล้า ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ ห่างจากสถานบันเทิงจุดที่กล่าวอ้างว่าถูกทำร้ายประมาณ 1 กิโลเมตร โดยพบร่องรอยคราบเลือดติดอยู่กับรั้วสังกะสี และ รั้วคอนกรีต รวมทั้งคราบเลือดที่ตกอยู่ริมถนน
โดยทาง เจ้าของร้านกาแฟในซอยที่เกิดเหตุ เล่าว่า กลางดึกคืนดังกล่าวญาติที่อาศัยที่บ้านภายในร้านได้ยินเสียงดังตรงรั้วคอนกรีตด้านทิศตะวันออกของร้าน จึงเข้าไปดู ก็พบเห็นชาวต่างชาติตกลงมาข้างรั้ว เมื่อชาวต่างชาติคนดังกล่าวเห็นเข้า จึงรีบวิ่งสวนทางออกมาและได้วิ่งไปปีนรั้วอีกฝั่งหนึ่งของร้านที่มีสังกะสีปิดไว้ จนทำให้ขอบรั้วยุบตัวเสียหาย ก่อนจะข้ามรั้วไปที่ดินของบ้านข้าง ๆ จากนั้นมีสุนัขเห่าเสียงดัง ทำให้นักท่องเที่ยวคนนี้ปีนรั้วของอีกบ้านออกไปและมีคราบเลือดติดอยู่ชัดเจน
นอกจากนี้เจ้าของร้านกาแฟ บอกว่า บาดแผลที่ปรากฏน่าจะมาจากการถูกสังกะสีบาดและยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีคนไล่ติดตามมาทำร้าย มีแต่นักท่องเที่ยวคนนี้ที่อยู่สภาพมึนเมาอย่างหนัก และ ไม่ทราบว่าเพราะอะไรถึงไปให้การว่าถูกทำร้าย ส่วนโทรศัพท์มือถือที่อ้างว่าหายไป พบว่าตกอยู่ริมรั้วที่กระโดดลงมา พร้อมกับรองเท้าผ้าใบอีกหนึ่งข้าง ซึ่งมีตำรวจมารับไปแล้ว
ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า เหตุครั้งนี้ที่เกิดขึ้น กู้ภัยรับแจ้งว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวถูกกระจกบาด เลยไม่ได้แจ้งตำรวจ ขณะที่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวให้ข้อมูลว่าถูกทำร้าย แต่เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทั้งจากร้านสถานบันเทิงที่ไปเที่ยว และ ตามเส้นทาง รวมทั้งชาวบ้านก็ยืนยันว่าไม่มีการทำร้าย
อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ที่กำลังฟื้นตัว ขอฝากถึงการแชร์ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทางโลกโซเชียลขอให้ตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะหากไม่ใช่เรื่องจริงอาจส่งผลกระทบได้ รวมทั้งอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่มีการทำความตกลงหลายหน่วยงาน ทั้ง เทศบาลนครเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และ ตำรวจ มีกล้องวงจรปิดอยู่ทั่วเมืองมั่นใจได้ในความปลอดภัย