“ประวิตร” รับยาบ้าราคาถูกลง มอบนโยบายป้องกันและแก้ปัญหา สั่งชายแดนเข้มสกัดจับป้องกันทะลักเข้าประเทศ
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจังหวัดชายแดนแม่น้ำโขงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ประกอบไปด้วย จังหวัดนครพนม อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร บึงกาฬ หนองคาย และจังหวัดเลย
โดยในโอกาสนี้ นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นตัวแทนผู้เข้าร่วมกิจกรรมกล่าวต้อนรับและรายงานสถานการณ์ รวมถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครพนมให้ทุกคนได้รับรู้พร้อมกับการชมวีดีทัศน์สรุปผลการดำเนินการของจังหวัดนครพนมในรอบปีงบประมาณ 2565
ซึ่งหลังรับทราบข้อมูลทั้งหมด พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า จากผลการดำเนินการของจังหวัดนครพนมถือว่ามีผลงานที่ดีมาก อยากให้ทุกจังหวัดได้เลือกเอาตัวอย่างที่ดีเหล่านี้ไปปรับใช้กับบริบทและพื้นที่ของตนเองเพื่อปราบปรามยาเสพติดที่เป็นตัวบ่อนทำลายชาติ ซึ่งปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้ยาเสพติดนับวันจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เดิมจากราคาเม็ดละ 2-3 ร้อยบาท ตอนนี้เหลือเพียงเม็ดละ 20-30 บาทเท่านั้น ดังนั้นทุกฝ่ายทุกคนจะต้องช่วยกันจึงจะสำเร็จโดยจะต้องอธิบายและชี้ให้ประชาชนได้เห็นและเข้าใจถึงมหันตภัยของยาเสพติด ว่ามีความร้ายแรงขนาดไหน กินแล้วเป็นอย่างไร ก่อให้เกิดปัญหาสังคมด้านใดบ้าง เพราะมีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้วในทุกวันนี้ ทั้งในทีวีและสื่อต่าง ๆ โดยก่อนที่จะเดินทางไปตรวจราชการต่อที่โรงเรียนโพนสวรรค์ราษฎร์พัฒนา อำเภอโพนสวรรค์ รองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดไว้ว่า
ให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกระดับในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจประมวลกฎหมายอาญายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยทำความเข้าใจ กรอบแนวคิด เจตนารมณ์ แนวทางการปฏิบัติ และภารกิจใหม่ของหน่วยงานเพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพ ให้มีการขับเคลื่อนสร้างความพร้อมรองรับกฎหมายยาเสพติดอย่างเป็นระบบ มีแบบแผนและขั้นตอนการปฏิบัติ รวมทั้งจัดให้มีกลไกการให้คำปรึกษา ติดตามและแก้ไขปัญหาแก่หน่วยปฏิบัติในระยะเปลี่ยนผ่านการใช้กฎหมาย เพื่อให้การปฏิรูปการแก้ไขปัญหายาเสพติดประสบผลสำเร็จ และมีการทำงานเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ต้องนำประมวลกฎหมายอาญายาเสพติดไปใช้ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรมทั้งในระดับภาพรวมและระดับจังหวัด โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาผู้เสพ ผู้ค้าตามแนวทางใหม่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติต้องมีความอดทนเสียสละ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่รับผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น หากเกี่ยวข้องกับยาเสพติดต้องถูกลงโทษโดยเด็ดขาด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ต้องมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก สำหรับมาตรการด้านการป้องกันจะต้องทำให้ประชาชนไม่เข้าสู่กระบวนการเสพหรือการใช้ยาเสพติด และขบวนการค้ายาเสพติด โดยสร้างการตระหนักรู้ให้ประชาชนเห็นถึงผลร้ายและโทษของยาเสพติด มีการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้หมู่บ้านและชุมชนผ่านกลไกตำบลชุมชนมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาแบบองค์รวมที่มีการผสมผสานการทำงานที่ก่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ส่วนมาตรการการบำบัดรักษาให้นำข้อมูลผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่ระบบ และนำตัวเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา ฟื้นฟู ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน รวมทั้งมีการส่งเสริมให้ผู้ที่ผ่านการบำบัดได้มีความรู้และมีวิชาชีพ โดยได้มอบให้กระทรวงแรงงาน จัดหางานให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมเพื่อคืนคนดีสู่สังคม ให้ตำรวจ ฝ่ายปกครองและชุมชนได้ช่วยกันดูแลไม่ให้บุคคลเหล่านี้กลับไปกระทำผิดซ้ำ ส่วนด้านการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย จะต้องทำลายเครือข่ายในทุกระดับให้หมดไปและนำมาตรการทางกฎหมายไปบังคับใช้อย่างจริงจังกับผู้ค้า เพื่อทำให้คนในชาติมีความปลอดภัย