“จุรินทร์” อัด 200 ล้าน ดันราคาลำไย ประสานโรงงานอบแห้งช่วยรับซื้อ 1 แสนตันสด เปิด 400 จุดรับซื้อจากเกษตรกร

1055

“จุรินทร์”อัด 200 ล้าน ดันราคาลำไย ประสานโรงงานอบแห้งช่วยรับซื้อ 1 แสนตันสด เปิด 400 จุดรับซื้อจากเกษตรกร

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงมาตรการดูแลราคาลำไย ว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปช่วยเหลือ โดยใช้เงินคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อนช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ลงไปช่วย 200 กว่าล้านบาท ให้โรงงานลำไยอบแห้งช่วยรับซื้อ 100,000 ตันสด และมีจุดรับซื้อทั้งหมด 400 จุด ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ทำให้ราคาดีขึ้น โดยลำไยเกรด AA ราคาปรับเพิ่มเป็น 12-16 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เกรด A ที่มีปัญหามากสำหรับลูกร่วง ปีนี้เหลือ 4-6 บาทต่อกก. จากปีที่แล้ว 4-7 บาทต่อกก. ส่วนเกรด B ราคาขยับดีขึ้น ปีนี้ 2-4 บาทต่อกก. เพิ่ม 20% จากปีที่แล้ว 2-3 บาทต่อกก. และมั่นใจว่าหลังจากเข้าไปช่วยรับซื้อ จะทำให้ราคาดีขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในส่วนของลำไยช่อ พบว่า เกรดส่งออกไม่มีปัญหา ราคาดีกว่าปีที่แล้ว 21% และเกรดมัดปุ๊กสำหรับขายในประเทศ ปราคาดีกว่าปีที่แล้ว 38% แต่ที่มีปัญหา คือ ลำไยรูดร่วง พราะปีนี้ฝนตกชุกมาก ทำให้คุณภาพต่ำลง ประกอบกับลำไยรูดร่วง ส่วนใหญ่เอาไปทำลำไยอบแห้ง ปรากฏว่าโรงอบแห้งของไทยชะลอการรับซื้อ เพราะปีที่แล้วสต๊อกของไว้เยอะและเหลืออยู่มาก และที่ซ้ำเข้ามา คือ จีนชะลอการรับซื้อ เพราะเก็บสต๊อกปีที่แล้วไว้เยอะ แต่ในช่วง 6 เดือนของปี 2565 ยังส่งออกได้ดี โดยส่งออกลำไยอบแห้งไปจีน เพิ่มถึง 95%

ที่ผ่านมา ตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย. 2565 ได้เข้าไปช่วยเหลือผลไม้ในภาคตะวันออก โดยตลาดจีนที่มีมีปัญหาเรื่องด่านการขนส่งทางบก ก็ได้ปรับระบบการขนส่งให้ขนส่งทางเรือมากขึ้น และประสานกับสมาคมผู้ส่งออกสินค้าทางเรือ สมาพันธ์โลจิสติกส์ เกษตรกร ล้ง ผู้ส่งออก ให้ใช้ทางนี้ โดยหาเที่ยวเรือและตู้คอนเทนเนอร์ให้ ทำให้ส่งออกไปจีนคล่องตัวมากขึ้น และราคาดีมากสำหรับปีนี้ เช่น หมอนทอง ภาคตะวันออกปี 2564 ราคา 117 บาทต่อกก. ปีนี้เฉลี่ย 140 กว่าบาทต่อกก. เพิ่มขึ้น 22% หมอนทองภาคใต้ ราคา เพิ่ม 45% มังคุดผิวมัน เพิ่ม 90% มังคุดคละ เพิ่ม 114% เงาะโรงเรียน เพิ่ม 168% สับปะรดภูแลภาคเหนือ เพิ่ม 20% สับปะรดโรงงาน เพิ่ม 4% ลิ้นจี่จักรพรรดิ เกรด B grbj, 19% มะม่วงน้ำดอกไม้ เพิ่ม 100% มะม่วงคละ เพิ่มเกือบ 50%

“ราคาผลไม้ ที่ปรับตัวดีขึ้น เพราะแก้ปัญหาทันท่วงที และแก้ปัญหาเชิงรุก เข้าไปแก้ระบบการขนส่งทำให้ตัวเลขการส่งออกผลไม้ 6 เดือนปีนี้ เพิ่มไปแตะ 120,000 ล้านบาท โดยตลาดจีนที่มีปัญหาเฉพาะการขนส่งทางบกเพราะจีนใช้นโยบาย Zero Covid ตรวจโควิด-19 เข้มข้นมาก การส่งออกผลไม้ทางบกต้องผ่านสปป.ลาว และผ่านเวียดนามเข้าด่านจีนต้องตรวจเข้มและรถติด เดี๋ยวปิด-เปิด เป็นอุปสรรคมาก จึงปรับระบบการขนส่งมาใช้ทางเรือมากขึ้น ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ทำให้ระบายผลไม้ไปจีนได้คล่องตัวมากขึ้น ในปีนี้ตัวเลขราคาเลยขยับไปมาก”นายจุรินทร์กล่าว