เชียงใหม่ สองสาวนักธุรกิจ อ.ฝาง ถูกหลอกลงทุนเล่นหุ้นต่างประเทศ สูญเงิน 206 ล้านบาท

9033

เชียงใหม่ สองสาวนักธุรกิจ อ.ฝาง ถูกหลอกลงทุนเล่นหุ้นต่างประเทศ สูญเงิน 206 ล้านบาท

ช่วงสายวันนี้ (31 สิงหาคม 65) นางเกยา เจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่งใน อ.ฝาง .เชียงใหม่ พร้อม นางสาวอาทิตยา ผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนหุ้นต่างประเทศ เข้าพบ พล...ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย บก..จว.เชียงใหม่ เพื่อให้ปากคำกรณีถูก นส.กุ๊กไก่ (นามสมมุติ) หลอกร่วมลงทุนหุ้นต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2562 โดยได้รวบรวมหลักฐานเป็นโฉนดที่ดินทั้งหมด และสมุดบัญชีธนาคารทุกธนาคาร มอบให้ผู้ต้องหาไป อ้างจะดำเนินการในเรื่องของการเสียภาษี หากได้ร่วมลงทุนค้าเงินต่างประเทศ จากนั้นก็เริ่มโอนเงินลงทุน โดยครั้งแรกเดือนตุลาคม 2562 จำนวนเงิน 5 ล้าน จากนั้นโอนเงินให้ผู้ต้องหา อีกครั้งละ 5-36 ล้านบาท รวม 17 ครั้ง รวมเงินกว่า 206 ล้านบาท

ผู้ต้องหารายนี้ รับปากว่า จะโอนเงินจากการลงทุนเล่นหุ้นต่างประเทศครั้งแรก ตั้งแต่ปี 2562 แต่ก็เงียบหายไป ไม่ได้เงินคืนจากการลงทุนเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนพวกตนมาทราบว่าถูกหลอกเมื่อต้นเดือนเมษายนปีนี้ จึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆนำไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อ 19 เมษายน 65 ในคดีฉ้อโกง จากนั้นวันที่ 22 เมษายน 65 ตนเดินทางไปหาผู้ถูกกล่าวหาที่บ้านในกรุงเทพฯ เพื่อขอสมุดบัญชีธนาคารทุกธนาคาร และโฉนดที่ดินทั้งหมดด้วย แต่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างไม่ได้เก็บเอกสารทั้งหมดไว้ที่บ้าน อ้างว่าพนักงานบัญชีเอาไปเก็บไว้ต่างจังหวัด อีกวันส่งคืนให้ทั้งหมด

จากนั้น 24 เมษายน 65 ผู้ถูกกล่าวหา ได้เดินทางมาที่ สภ.ฝาง โดยได้โอนเงินให้ผู้เสียหายจำนวน 5 ล้านบาท จากนั้นก็ไม่ได้อะไรอีกเลย และอ้างว่าจะโอนบ้านให้ผู้เสียหาย โดยให้ไปรอที่บางกะปิ กรุงเทพฯ วันที่ 25 เมษายน 65 แต่ไม่มาตามนัด ผู้เสียหายจึงไปตามหาที่บ้านโดยรอที่หน้าบ้านตั้งแต่เช้าถึงบ่ายสาม ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้ออกจากบ้านมาพบ และก็มีปากเสียงกัน นอกจากนี้ผู้ถูกกล่าวหายังได้ไปแจ้งความกับตำรวจ อ้างผู้เสียหายบุกรุก ชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และยังมีคดีกันอยู่

ในช่วงเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและสอบสวนคดี ก็พบว่า ผู้ถูกกล่าวหา ได้ปลอมแปลงเอกสารจำนวน 25 ครั้ง เช่น เอกสารสเตเมนท์บัญชี เอกสารเสียภาษีสรรพากร ที่ปลอมได้เหมือนเอกสารราชการมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงรับแจ้งดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ จำนวน 25 คดี รวมคดีฉ้อโกง 17 ครั้ง หรือ 17 คดี และในวันนี้ (31 สิงหาคม 65) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้นัดให้ผู้กล่าวหามารับทราบในคดีฟอกเงินอีกด้วย

นางเกยา ศิริพฤกษชาด เจ้าของร้านขายยา ผู้เสียหาย บอกเล่าย้อนถึงคดีว่า รู้จักผู้ถูกกล่าวหาและครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่งผู้ต้องหารายนี้ได้ขับรถเบนซ์เข้ามาที่ร้าน ตนจึงได้สอบถามว่าไปทำอะไรมาจึงได้ร่ำรวย ก็ได้คำตอบว่าได้ลงทุนหุ้นต่างประเทศ และชวนตนร่วมลงทุนเพราะได้ผลกำไรจำนวนมาก จากนั้นได้แสดงเอกสารต่างๆ เช่น เอกสารการโอนเงิน และแสดงเตเมนท์ รายรับรายจ่ายบัญชี ตนจึงหลงเชื่อร่วมลงทุน โดยครั้งแรกโอนเงินร่วมลงทุนไป และเมื่อตนมาทราบว่าถูกต้มได้พยายามขอเงินคืนตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา รวมทั้งพยายามติดตามหาผู้ถูกกล่าวหาและแจ้งความเอาผิด

นอกจากนี้ในเฟซบุ๊กของผู้ถูกกล่าวหา พบว่าใช้ชีวิตหรูหรา ใช้เงินซื้อสินค้าแบรนด์เนม ทั้งกระเป๋าราคาแพง และไม้กอล์ฟราคาหลักแสน และยังสนับสนุนเงินการประกวดนางงามเวทีใหญ่ จึงรวบรวมหลักฐานส่งมอบพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม

ทางด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานในทุกคดีที่รับผิดชอบให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ซึ่งในคดีนี้เป็นลักษณะของการหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน และคดีปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ซึ่งมีผู้เสียหายในคดีนี้เพียงรายเดียว เบื้องต้นจะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหา มารับทราบในคดีฟอกเงินเพิ่มอีก รวมเป็น 3 คดี