รมว.ยุติธรรม คิกออฟ ปล่อยขบวนวินมอเตอร์ไซค์-ไรเดอร์ ช่วยรณรงค์แจ้งเบาะแสยาเสพติด รับรางวัลนำจับ 5% ยิ่งรายใหญ่ยิ่งได้นำจับก้อนใหญ่ด้วย
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 เมื่อเวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน “รวมพลัง สร้างสังคมปลอดภัย ห่างไกลยาเสพติด” เพื่อรณรงค์สร้างการรับรู้และสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในกลุ่มแรงงานนอกระบบ โดยมี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้บริหารกระทรวง กองบัญชาการตำรวจนครบาล กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการขนส่งทางบก ผู้บริหารจากบริษัทเดลิเวอร์รี่ 7 แห่ง เช่น ไลน์แมน แกร็ป ฟู้ดแพนด้า โรบินฮู้ด แอร์เอเชีย ซุปเปอร์แอพ ช้อปปี้ ลาล่ามูฟ สมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และเครือข่ายภาคประชาชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน กว่า 100 คน เข้าร่วมงาน
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาร่วมงาน “รวมพลัง สร้างสังคมปลอดภัย ห่างไกลยาเสพติด”ในวันนี้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า สถานการณ์ยาเสพติดปัจจุบัน ยังคงมีการแพร่ระบาด ด้วยการใช้วิธีการต่างๆในการลักลอบขนส่งให้พ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ ทั้งยังมีการขายออนไลน์ ส่งของทางไปรษณีย์ รวมถึงใช้ไรเดอร์ และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ขับรถส่งยาเสพติด นอกจากนี้ ยังพบมีการปลอมตัวเป็นไรเดอร์ รวมถึงเปิดร้านอาหารทางแอฟพลิเคชั่นบังหน้า เพื่อแอบขายยาเสพติด เป็นต้น
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก จำนวนผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ในกรุงเทพมหานคร ที่จดทะเบียนรถรับจ้างสาธารณะ มีจำนวน 81,970 คน จำนวนไรเดอร์ ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ประมาณ 100,000 คน ซึ่งตัวเลขที่แท้จริงมีมากกว่านี้ เพราะยังมีมอเตอร์ไซค์รับจ้างบางส่วน ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก แต่พอรวมตัวเลขแล้ว ไรเดอร์กับมอเตอร์ไซค์รับจ้างทั่วประเทศ น่าจะมีไม่น้อยกว่า 200,000 คน
“ผมจึงอยากขอความร่วมมือทุกท่าน ทั้ง ไรเดอร์ วินมอเตอร์ไซค์ ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ เพื่อปัญหายาเสพติดจะได้ดีขึ้น โดยทุกท่านสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. 1386 ซึ่งจะมีรางวัลการแจ้งเบาะแส 5% ของมูลค่าทรัพย์ที่ยึดได้ โดยอย่าคิดว่า แจ้งรายเล็กจะได้น้อย เพราะหากมีการขยายผลไปสู่รายใหญ่ได้ คนแจ้งก็จะได้รางวัลนำจับไปด้วย ซึ่งปีนี้ เราสามารถยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดได้แล้ว 10,300 ล้านบาท จากเป้าหมายที่วางไว้ 10,000 ล้านบาท” รมว.ยุติธรรม กล่าว
โดยนายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า วันนี้ ป.ป.ส. ได้ร่วมกันรณรงค์ กับภาคเอกชน และประชาชน เพื่อให้ช่วยแจ้งเบาะแส ร่วมถึงสอดส่องผู้ค้ายาเสพติด เพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด ซึ่งปีนี้ เราสามารถยึดทรัพย์ได้ตามเป้า 1 หมื่นล้านบาทแล้ว ทำให้ผู้แจ้งเบาะแส จะได้เงินรวมถึง 500 ล้านบาท ตนจึงอยากให้ทุกคน ช่วยประเทศในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด หากทำได้ทุกตำบล โอกาสยาเสพติดจะหมดประเทศมีสูงมาก ดังนั้น ปีหน้า ตนจะรณรงค์เรื่องนี้ ให้ประชาชนทราบทักหมู่บ้าน
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมกทม. ทางกรมราชทัณฑ์ จะช่วยลอกท่อเพิ่มเติมหรือไม่ว่า ในช่วงฝนตก การลอกท่อของผู้ต้องขัง คงไม่สะดวก เพราะท่อได้จมน้ำ ทำให้ไม่สามารถลอกท่อระบายน้ำได้ แต่เราก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ โดยอะไรทำฟรี ก็ยินดี แต่ตอนนี้ ความต้องการของ กทม. คือ เครื่องสูบน้ำ ซึ่งหลายกระทรวง ก็พร้อมส่งไปแล้ว
เมื่อถามถึงข้อเสนอให้กัญชา กลับไปเป็นยาเสพติด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การปลดล็อกกัญชา ทางกระทรวงยุติธรรม ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเราทำหน้าที่แค่ปลดล็อกพืชกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด โดยก็มีกฎหมายลูกออกมาควบคุมการใช้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการปลดล็อกแบบเข้าตามตรอก ออกตามประตู แต่กัญชานั้น ยังไม่มีกฎหมายรองรับเหมือนกระท่อม จึงอาจทำให้เกิดปัญญาถกเถียงกันอยู่ตอนนี้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องไปเร่งพิจารณาประกาศควบคุมเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายกิจกรรม นายสมศักดิ์ ยังได้ร่วมมอบหมวกกันน็อค เพื่อรณรงค์แจ้งเบาะแสยาเสพติด พร้อมปล่อยขบวนมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และไรเดอร์ เพื่อเป็นการคิกออฟ ให้ทุกภาคส่วนช่วยกันแจ้งเบาะแสยาเสพติด ผ่านสายด่วน 1386 ด้วย