เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 65 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ได้เปิดเผยถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติดชื่อ “แฮปปี้ (Happy)” ที่พบมากใน จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในขณะนี้ ซึ่งยาเสพติดดังกล่าวพบบรรจุอยู่ในซองบรรจุภัณฑ์หลากหลายยี่ห้อขนาดเล็กคล้ายซองถุงยางอนามัย ตัวยามีลักษณะเป็นผงสีขาว ใช้ผสมเครื่องดื่ม เบื้องต้นทราบว่าพบการแพร่ระบาดในร้านอาหารและสถานบันเทิง ในหมู่นักท่องเที่ยว ในฝั่ง จ. ท่าขี้เหล็ก
นายวิชัย ไชยมงคล กล่าวว่า “สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ทำงานเชิงรุก โดยเร่งประสานกับทางการเมียนมาเพื่อขอตัวอย่างยาเสพติดมาทำการตรวจพิสูจน์จำแนกสารประกอบแบบละเอียด ซึ่งอยู่ภายใต้ความร่วมมือทวิภาคี ไทย-เมียนมา โครงการแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลยาเสพติดระหว่างประเทศ เพื่อหาความเชื่อมโยงและเป็น ฐานข้อมูลลักษณะเฉพาะของยาเสพติด (Drug profile) เนื่องจากข้อมูลยาเสพติด “แฮปปี้” จาก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เท่าที่ทราบ ยังไม่มีข้อมูลในส่วนของรายละเอียดว่าเป็นยาเสพติดชนิดไหน หรือมีส่วนผสมอะไรอยู่บ้าง ซึ่งจากชื่อของยาเสพติดที่คล้ายกับยาเสพติด Happy water ที่เคยพบว่า มีการระบาดในไทยนั้น ต่างมีลักษณะการเสพในรูปแบบน้ำเหมือนกัน”
จากข้อมูลเบื้องต้นที่สืบทราบมา พบว่า ยา “แฮปปี้” มีราคาขายต่อซอง 3,000 – 6,000 บาท ยาเสพติด ที่บรรจุจะมีลักษณะสีขาวขุ่น เมื่อเสพแล้วจะไม่ง่วงนอน และตื่นตัวตลอดเวลา ทำให้เที่ยวได้ทั้งคืน ส่วนใหญ่นำมาผสมกับเครื่องดื่ม เช่น น้ำเปล่า ชา กาแฟ ซึ่งต้องรอผลตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดจากทางเมียนมาร์จึงจะทำให้ทราบว่ามีส่วนผสมเหมือนหรือต่างกับยา Happy water ในไทยหรือไม่ โดยยาที่พบในไทยจะเป็นยาอีผสมยาเสพติดชนิดอื่น เช่น ไอซ์ คีตามีน และพบยานอนหลับชนิดไนเมตาซีแพม ผสมอยู่ด้วย พรางตาในซองกาแฟสำเร็จรูปหลายยี่ห้อ และครีมเทียมบรรจุซอง จำหน่ายราคาซองละ 2,500 -3,000 บาท พบระบาดตามสถานบันเทิง บ่อนการพนันและปาร์ตี้ พบการแพร่ระบาดในไทยในห้วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยสามารถจับกุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หนองคาย และชุมพร ขณะลำเลียงไปส่งยังพื้นที่ปลายทาง ราคาจำหน่ายเอ็กซ์ตาซีซองละ 2,000-3,200 บาท
นายวิชัย ไชยมงคล กล่าวต่ออีกว่า “ภายหลังจากการผ่อนคลาย โควิด-19 ทำให้สถานบันเทิงกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง อาจจะเป็นช่องว่างให้นักค้ายาลักลอบนำยาเสพติดประเภท club drugs เข้ามา ซึ่งภาครัฐได้มีมาตรการกำชับและจัดสรรเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตรวจสถานบันเทิง และถือเป็นหน้าที่ของสถานประกอบการในการดูแลไม่ให้เกิดการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานที่ของตนเช่นกัน”
ท้ายนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้แสดงความเป็นห่วงถึงอันตราย โดยเฉพาะการใช้ยาเสพติดในรูปแบบผสมแล้วดื่มควบคู่กับแอลกอฮอล์ เพราะจะเป็นการเสริมฤทธิ์ทำให้มีอาการรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอันตรายต่อผู้ใช้ โดยอาจก่อให้เกิดภาวะหยุดหายใจ หัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตได้ ถึงแม้ว่าในขณะนี้ ยังไม่พบการระบาดของยา Happy จากท่าขี้เหล็กเข้ามาในฝั่งไทย และขอย้ำเตือนว่าตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ให้ความสำคัญในการปราบปรามสกัดกั้น การลักลอบลำเลียงยาเสพติดระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดถูกลักลอบเข้ามาในประเทศไทย และ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 124 โดยหากกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด แม้การกระทำนั้นจะเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักร ผู้นั้นก็จะต้องได้รับโทษในราชอาณาจักร”