27 ก.ย. 65 – จากกรณี “พระชาตรี” เริ่มเปิดศึกวิวาทะกับ “แพรรี่” (อดีตพระมหาไพรวัลย์) ก่อนเกิดการตอบโต้จนกลายกลายเป็นเรื่องลุกลาม ทำให้มีการตรวจสอบ “พระชาตรี” เมื่อครั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี
วานนี้ (26 ก.ย.) พระชาตรี ได้ติดต่อคุณนฤชา กมุทโยธิน ผู้สื่อข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ อธิบายเรื่องต่างๆ ที่เป็นประเด็น เรื่องแรก ปมยักยอกเงินวัด 4 ล้านบาท พระชาตรีกล่าวว่า ตอนที่พระผู้ใหญ่ขอให้ตนไปเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา ประมาณเดือนกว่า ตอนนั้นมีปัญหาเรื่องการเงินภายในวัดอยู่แล้ว แล้วตัวเองไม่เคยทราบเงินในบัญชีวัดมีจำนวนเท่าไหร่ ผู้ถือสมุดบัญชีและเบิกถอนเงิน คือ ไวยาวัจกรวัด และเหรัญญิก
พระชาตรีกล่าวว่า ตอนนั้นจำไม่ได้ว่า ศาลสั่งยกฟ้องหรือมีใครถอนฟ้อง แต่ที่แน่ๆ คือ ศาลตัดสินว่าตัวเองไม่มีความผิด และที่ผ่านมาก็ยังเดินทางเข้า-ออกประเทศได้ตามปกติ ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็รับรองว่า ไม่มีคดีความ
ส่วนปมจุดเริ่มต้นที่ พระชาตรี ใช้คำพูดถึงแพรี่ หรือ อดีตพระมหาไพรวัลย์ ไม่เหมาะสม และกล่าวหาว่าดิสเครดิตพุทธศาสนา ‘พระชาตรี’ ฝากส่งสารสงบศึกผ่านทีมข่าวว่า เรื่องนี้ตัวเองรู้สึกผิด และขอโทษจริงๆ จากใจ ขอยอมรับผิดด้วยศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย อยากนัดเคลียร์ใจกับแพรรี่
ส่วนที่ถูกนำไปขยาย ทนายความรายหนึ่งไปแจ้งความแพรรี่ รวมทั้งวิวาทะกลางรายการ ‘พระชาตรี’ ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้จักกับทนายธรรมราช ซึ่งก่อนที่ทนายจะไปออกรายการโหนกระแส ได้พยายามติดต่อมาหาตน และตนก็เตือนและห้ามแล้วว่า อย่าไปเคลื่อนไหวอะไร เพราะปมที่พูดถึงแพรรี่ พระชาตรี ยอมรับผิดจริงๆ
พร้อมทั้งฝากดรามาเรื่องเหยียดเพศว่าตัวเองไม่เคยติดเหยียดเพศ จะเพศไหนก็นับถือศาสนาพุทธได้ ลูกศิษย์ลูกหาตัวเองที่เป็นเพศที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ก็มี
ขอบคุณข้อมูล : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
