ทำไปเพราะตกใจ หนุ่มบุกแทงมั่วคนในคอนโดกลางเมืองเชียงใหม่ อ้างแค่จะเข้าไปลักทรัพย์จวนตัวจึงต้องแทง สำนึกผิดอยากขอโทษคนเจ็บ ด้านพ่อคนเจ็บลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด
วันที่ 25 ก.พ. 66 เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แม่ปิง ควบคุมตัว นายณัฐกฤษณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ซึ่งาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด แทงประชาชนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ภายในห้องโถงทางเดินชั้น 2 ของคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านถนนเชียงใหม่-สันกำแพง (สายเก่า) ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ โดยภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจนขณะคนร้ายเข้าไปภายในคอนโดดังกล่าว และใช้อาวุธมีดก่อเหตุกับผู้เสียหาย โดยรายแรกคือ นายเมธาพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้อาศัยอยู่ในคอนโดดังกล่าว สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาว ขณะยืนคุยกับผู้ก่อเหตุ แล้วเดินไปตามทางเดิน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินตามด้านหลังแล้วควักอาวุธมีดปรี่เข้าทำร้ายอย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้ผู้บาดเจ็บพยายามขัดขืนต่อสู้และเรียกคนขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งผู้บาดเจ็บรายที่สอง ทราบชื่อคือ นายณัฐดนัย (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษา มช. ที่อยู่ภายในห้องได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย แล้วเปิดประตูออกมาเจอผู้ก่อเหตุ ก่อนที่ทางผู้ก่อเหตุจะพุ่งปรี่บุกเข้าไปใช้อาวุธมีดแทงคาห้องพัก แล้วออกมาจากห้อง วิ่งตรงมายังประตูทางออกแล้วหลบหนีไป
และต่อมาภายหลังเกิดเหตุ ทางคนร้ายที่ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสกุ๊ปปี้ สีแดง หมายเลขทะเบียน 2 กค 9021 เชียงใหม่ หลบหนีไปตามเส้นทางสายแม่ริม และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวได้ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในท้องที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนจะควบคุมตัวมาดำเนินคดี
โดยในวันนี้ ทางด้าน นายธรรมนูญ (สงวนนามสกุล) พ่อของ นายณัฐดนัย หนึ่งในผู้ที่ถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้เดินทางมายัง สภ.แม่ปิง เพื่อพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่า ในตอนเกิดเหตุ ลูกชายอยู่ภายในห้องพักของคอนโดดังกล่าว แต่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย และได้ยินเสียงเรียกขอความช่วยเหลือ จึงได้เปิดประตูออกมาดู และเจอเข้ากับคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าตัวยังถามคนร้ายว่า “มีอะไรกันครับ” แต่ทางคนร้ายไม่พูดจาอะไร ตรงปรี่เข้ามาแทงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการตรวจสอบพบว่าลูกชายถูกแทงถึง 6 แผล เข้าที่บริเวณต้นคอ 1 แผล บริเวณใบหน้าที่แก้ม 1 แผล และเมื่อหันหลังหลบก็ถูกคนร้ายกระหน่ำแทงกลางหลังอีก 4 แผล
พ่อของ นายณัฐดนัย ผู้บาดเจ็บที่ถูกแทง ยังบอกอีกว่า สาเหตุที่ลูกชายรอดมาได้เพราะตอนนั้นได้ทำทีหมดสติแกล้งตาย ทำให้คนร้ายยั้งมือก่อนจะวิ่งออกไป ถ้าไม่ทำอย่างนั้นคนร้ายคงหมายจะเอาชีวิตจริงๆ หลังจากนั้นลูกชายก็ได้พยายามโทรศัพท์มาหาตนเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากตนทราบก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปช่วยและนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ทันเพราะอยู่ไม่ไกลจากคอนโด ส่วนอาการในตอนนี้อยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว แต่ยังนอนพักรักษาตัวในห้องไอซียู และจากการตรวจสอบพบว่าลูกชายถูกกระหน่ำแทงถึง 6 แผล เข้าที่บริเวณต้นคอ 1 แผล บริเวณใบหน้าที่แก้ม 1 แผล และด้านหลังอีก 4 แผล เย็บกว่า 40 เข็ม
ส่วนสาเหตุที่เดินทางมาที่สถานีตำรวจในวันนี้ก็อยากถามกับทางเจ้าตัวผู้ก่อเหตุว่าทำไปเพื่ออะไร และทำไมถึงทำได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อีกทั้งตนก็ยังสงสัยว่าคนร้ายทำไมถึงต้องเข้ามาในคอนโด และทำไมต้องใช้อาวุธมีดแทงลูกชายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ส่วนในเรื่องของคดี ตนยืนยันว่าจะเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะการกระทำเช่นนี้เหมือนไม่ใช่คน
ขณะที่ในระหว่างการสอบสวน ทางด้าน นายณัฐกฤษณ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำลงไปนั้นเป็นเพราะเกิดความเครียดจากการที่ตนว่างงานไม่มีงานทำ โดยก่อนหน้านี้ตนก็จะช่วยงานพ่อที่มีอาชีพเป็นสถาปนิก และรับเหมาก่อสร้าง แต่ต่อมาพ่อไม่ให้ทำงานด้วย พอไม่มีงานทำก็เลยไม่มีเงิน ในวันเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ผ่านที่คอนโดดังกล่าว แล้วรถน้ำมันจะหมด อีกทั้งแบตโทรศัพท์ก็หมด จึงพยายามเดินหาคนแถวนั้นเพื่อที่จะขอยืมเงิน แล้วได้เข้าไปในคอนโดดังกล่าว โดยตั้งใจจะเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ โดยพยายามเดินไปบิดลูกบิดห้องที่ไม่ได้ล็อค แต่ผู้บาดเจ็บรายแรกเข้ามาเจอ ตนตกใจจึงพยายามก่อเหตุทำร้ายร่างกาย แต่อีกฝ่ายขัดขืน แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งผู้บาดเจ็บอีกรายเปิดห้องออกมา ตนจึงต้องทำร้ายเพราะจวนตัวและเกิดความกลัว แล้วหลังจากนั้นจึงหลบหนี
นายณัฐกฤษณ์ ผู้ต้องหา ยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าไปพบแพทย์เพื่อขอยาระงับประสาท เมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ไม่ได้ใช้ยา และเคยมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดในช่วงระหว่างที่กำลังจะเกณฑ์ทหาร แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ จนกระทั่งมาถึงครั้งนี้ที่ตนมีความเครียด เพราะไม่มีงานทำ และส่วนใหญ่จะได้เงินจากพ่อแต่พักหลังไม่ได้ทำงานช่วยพ่อจึงไม่ค่อยได้เงิน จนกระทั่งต้องมาก่อเหตุเช่นนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนก็รู้สึกเสียใจและอยากขอโทษผู้ที่ถูกตนทำร้ายร่างกายด้วย
อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทางด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ตัวผู้ต้องหาได้เข้าไปในคอนโดที่เกิดเหตุ เพราะไม่มีเงิน แล้วรถน้ำมันจะหมด และแบตโทรศัพท์หมดติดต่อใครไม่ได้ และอ้างว่าได้ขับรถไปจอดแล้วเดินวนเพื่อหาคนขอยืมเงิน และเมื่อมีคนเปิดประตูเข้าไปในคอนโดก็เดินตามเข้าไปด้วย หลังจากเข้าไปได้ก็พยายามจะเปิดหาห้องที่เปิดได้ โดยเจตนาก็น่าจะเข้าไปลักทรัพย์ และหากเจอผู้หญิงก็อาจจะข่มขืน แต่หลังจากเปิดห้องก็มีผู้เสียหายขอความช่วยเหลือ ทางผู้บาดเจ็บได้ยินก็เปิดห้องออกมา แล้วซักถามหู้ต้องหา ทางเจ้าตัวเลยเกิดความกลัวจึงใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายคนแรก แล้วผู้เสียหายคนแรกก็ร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นผู้เสียหายคนที่สองได้ยินเสียง จึงเปิดประตูออกมา แล้วจึงถูกคนร้ายเข้าทำร้ายร่างกายไปด้วย
โดยหลังจากก่อเหตุทางคนร้ายก็บอกว่าได้ขับรถจักรยานยนต์ไปที่บ้านผู้หญิงที่รู้จักเพื่อขอเงิน แล้วจะขอพักด้วย แต่ทางฝ่ายหญิงไม่ให้พัก คนร้ายจึงขับรถจักรยานยนต์ไปต่อ จนกระทั่งถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ที่ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ อ.แม่ริม อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุ เจ้าตัวอ้างว่า เคยตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในช่วงเกณฑ์ทหาร แต่ประวัติก่อเหตุอาชญากรรมยังไม่พบว่ามีประวัติแต่อย่างใด นอกจากนี้จากการซักถามเจ้าตัวยอมรับว่ามีอาการทางจิต และยอมรับว่าเคยเข้าพบแพทย์เพื่อขอรับยาเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ใช้ยานานแล้ว อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับทางผู้ต้องหาในข้อหา “พยายามฆ่า” และได้ส่งตัวฝากขังต่อไป