“สภาลมหายใจเชียงใหม่” ประกาศภาวะวิกฤติด้านสุขภาพภาคประชาชน ชี้ภาครัฐเร่งประกาศตาม หลัง PM2.5 พุ่งสูง
วันที่ 27 มีนาคม 2566 “สภาลมหายใจเชียงใหม่” ได้โพสต์ระบุว่า ท่ามกลางปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานของประเทศ มากกว่า 50 วันต่อเนื่อง ไม่มีประกาศใดๆ หน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศภาวะวิกฤติด้านสุขภาพได้แล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศวิกฤติด้านสุขภาพได้ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น สภาลมหายใจเชียงใหม่ ขอประกาศภาวะวิกฤติด้านสุขภาพ เนื่องจาก เกิดฝุ่นควันปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่อย่างยาวนาน มีสาเหตุจากไฟที่ลุกไหม้ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในเขตป่า เขตอุทยาน ริมทาง ป่าชุมชน ป่าการเกษตร ป่าเศรษฐกิจ เห็ด หน่อ ไข่มดแดง ผักหวาน ประกอบกับกระแสลมที่พัดพาฝุ่นเข้ามาในแอ่งเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง พัดพาฝุ่นข้ามแดนมาจากทั้งจังหวัดข้างเคียง และประเทศข้างเคียง ทำให้ประชาชนอยู่ในฝุ่นควันที่สูงเกิน 100 ไมโครกรัมเฉลี่ย 24 ชั่วโมง
ณ ขณะนี้ ประชาชนควรช่วยเหลือตัวเอง ปกป้องตนเอง ด้วยการลดการสูดฝุ่นควันมากที่สุด หยุดกิจกรรมกลางแจ้งที่ไม่จำเป็น ใช้หน้ากากที่ป้องกันฝุ่นได้ ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดหาหน้ากาก อุปกรณ์เครื่องฟอกอากาศให้ยืม ให้ใช้ กับกลุ่มเปราะบาง หญิงท้อง คนแก่ เด็กเล็ก คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง โดยพลัน
เราถือว่าการไม่ดำเนินการใดใดของหน่วยงานที่มีภาระหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน เป็นการละเลย คุณภาพชีวิตประชาชน ส่วนรัฐบาลส่วนกลางนับว่าไม่ได้ให้ความสนใจปัญหาของภาคเหนืออย่างจริงจัง ถือว่าเป็นการละเว้น ละเลย การดูแลประชาชนเช่นกัน สภาลมหายใจเชียงใหม่ 27 มีนาคม 2566
สำหรับ “สภาลมหายใจเชียงใหม่“ เป็นองค์กรภาคประชาสังคม จัดตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์และร่วมมือกับทุกภาคส่วนหาทางแก้ไขปัญหาฝุ่นควันในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีปัญหาต่อเนื่องยาวนาน สร้างความร่วมมือกับภาคีทุกภาคส่วนในการมีส่วนร่วมแก้ปัญหาฝุ่นควันและมลพิษอากาศ เสริมศักยภาพประชาชน โดยสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและวิถีการผลิตที่ยั่งยืนเพื่อลดปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ พัฒนาและผลักดันนโยบายสาธารณะบนฐานข้อมูลและความรู้ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศในระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับประเทศ และระดับภูมิภาค