GISTDA เผยจุดความร้อนในไทยวานนี้ 3.4 พันจุด เชียงใหม่นำอันดับหนึ่ง 508 จุด

738

GISTDA เผยจุดความร้อนในไทยวานนี้ 3.4 พันจุด เชียงใหม่นำอันดับหนึ่ง 508 จุด

GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 31 มีนาคม 2566 ไทยพบจุดความร้อนเพิ่มมากขึ้น 3,405 จุด โดยมีเพื่อนบ้านอย่างพม่าขึ้นนำอยู่ที่ 6,424 จุด, สปป.ลาว 2,987 จุด, กัมพูชา 303 จุด
สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ยังคงพบในพื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุดถึง 1,859 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 1,037 จุด, พื้นที่เกษตร 225 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 180 จุด, พื้นที่เขต สปก. 98 จุด, และพื้นที่ริมทางหลวง 6 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ เชียงใหม่ 508 จุด, แม่ฮ่องสอน 379 จุด และเชียงราย 335 จุด
ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 วันนี้ทางภาคเหนือคงน่าเป็นห่วงมากเช่นเคย เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” แบบรายชั่วโมง เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมาพบหลายจังหวัดมีค่า PM2.5 อยู่ในระดับสีแดง และมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะที่จังหวัด เชียงราย ที่มีค่า PM 2.5 สูงสุดกว่า 300 ไมโครกรัม ตามด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ ตาก เลย อุตรดิตถ์ หนองบัวลำภู ประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย และงดกิจกรรมภายนอกอาคารสถานที่เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่จะตามมา ในขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าคุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทยมีลักษณะเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการพัดและการเคลื่อนตัวของกระแสลมในพื้นที่เป็นสำคัญ
blank