ชาวบ้านลุกฮือ ไล่ 5 ตำรวจ โรงพักกัลยาณิวัฒนา จับผิดตัวครูสอนศาสนาจนบาดเจ็บแต่ไม่เหลียวแล เอือมพฤติกรรมข่มเหง ใช่วาจาไม่สุภาพ ไม่ให้เกียรติศาสนสถาน ขีดเส้น 7 วันต้องมีคำตอบ
วันที่ 26 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.กัลยาณิวัฒนา ว่าในวันนี้ ได้มีการรวมตัวกันเดินทางไปยัง สถานีตำรวจภูธรกัลยาณิวัฒนา เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาย ออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน โดยระบุว่าตำรวจทั้ง 5 นาย ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ละเมิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิประชาชน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 นายบุญยืน อายุ 60 ปี ชาวบ้านห้วยฮ้อม ต.บ้านจันทร์ อ.กัลยานิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นครูสอนศาสนาคริสตจักรในพื้นที่ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กัลยานิวัฒนา จำนวน 3 ราย ทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำ 21 เม.ย 66 ที่ผ่านมา โดยนายบุญยืน เล่าว่าขณะที่ตนกำลังเดินทางกลับบ้านจากทำสวน ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาตามถนน ก่อนบริเวณป่าช้า หมู่บ้านบ้านห้วยฮ้อม เห็นชาย 2 คนยืนซุ่มอยู่และวิ่งตามรถตนที่ขี่มา ขณะเดียวกันมีผู้ชายอีกคนหนึ่งยืนดักหน้ารถไว้ ตนจึงชะลอรถ ชายอีก 2 คนที่วิ่งตามมาได้ตะครุบรถของตนจนรถล้มลง ก่อนจะรุมกระทืบและชกต่อย ล็อกคอ สวมกุญแจมือ และได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้นได้ค้นกระเป๋ากางเกง แต่ไม่พบอะไร ก่อนที่ตนจะแสดงตัวว่าตนเป็นครูสอนศาสนาและบอกว่าสอนหนังสือที่นี่มานานกว่า 20 ปีแล้ว กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอโทษและปล่อยตัวไป
หลังเกิดเหตุ นายบุญยืน บอกว่าตนได้รับบาดเจ็บจากรถมอเตอร์ไซค์ล้ม เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ไปโรงพยาบาลพบว่าได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์ที่นิ้วโป้งเท้าขวา และมีรอยแผลที่กกหู ข้อมือ ข้อเท้า หัวเข่า และมีาอาการระบมไปทั้งตัว หลังจากนั้นตนและญาติจึงได้นำเรื่องไปปรึกษากับกำนันตำบลบ้านจันทร์ ก่อนที่จะเรียนกับนายอำเภอกัลยานิวัฒนา นัดตำรวจชุดจับกุมมาสอบถามข้อเท็จจริง ที่บ้านนายบุญยืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมยืนยันทำตามหน้าที่ และไม่รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นนายบุญยืน ได้เข้าแจ้งความตำรวจชุดจับกุมทั้งหมด กับพนักงานสอบสวน สภ.กัลยาณิวัฒนา ข้อหาทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และมาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งนายบุญยืนระบุว่า จะดำเนินคดีกักับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ถึงที่สุด
นอกเหนือจากเรื่องดังกล่าวแล้ว ชาวบ้านยังระบุว่า รอง ผกก. คนที่มีปัญหาดังกล่าว ยังมีพฤติกรรมไม่ให้เกียรติประชาชน เวลาที่ชาวบ้านไปติดต่อราชการมักจะใช้วาจาไม่สุภาพ สูบบุหรี่ในโบสถ์คริสต์ขณะไปประชุมชาวบ้านโดยไม่สนใจป้ายห้าม ไม่ให้เกียรติศาสนสถาน เมื่อชาวบ้านว่ากล่าวตักเตือนกลับพูดจาตะคอกใส่ชาวบ้าน สร้างความไม่สบายใจแก่ชาวบ้านและผู้นำศาสนาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมซื้อของที่ร้าน และไปตัดผมกับชาวบ้านแล้วไม่จ่ายเงินหลายครั้งอีกด้วย
โดยจากการรวมตัวมายัง สภ.กัลยาณิวัฒนา ในวันนี้ ได้มีนายปณิธาน แก้วติ๊บ ปลัดฝ่ายความมั่งคง อำเภอกัลยาณิวัฒนา รับเรื่องข้อเสนอที่ชาวบ้านเรียกร้อง โดยทางด้านของ พ.ต.อ.ธนัญชัย ศิริวรรณา ผกก.สภ.กัลยาณิวัฒนา เปิดเผยว่า หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนและพูดคุยกับตัวแทนชาวบ้านแล้ว หลังจากนี้จะได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นและจะทราบผลภายใน 7 วัน ซึ่งยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ก่อนชาวบ้านจะแยกย้ายกันไป
