รัฐบาลห่วงใยสถานการณ์ข้าวเหนียวแพง พาณิชย์เข้าดูแลไม่ให้กักตุน ฝ่าฝืนโทษหนักอาจทั้งจำทั้งปรับ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายของกรมการค้าภายในพร้อมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการจำหน่ายข้าวเหนียวเพื่อการบริโภคในประเทศซึ่งกำลังมีราคาแพงและเป็นความเดือดร้อนของประชาชน
โดยภายหลังการหารือ ได้ข้อสรุปร่วมกันในการแก้ปัญหาสำหรับช่วงระยะเวลานี้ คือ 1.วันนี้จะมีการใช้ประกาศตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว ฉบับที่ 150 ซึ่งมีอยู่แล้วแต่จะให้อธิบดีกรมการค้าภายในได้ดำเนินการออกหนังสือสั่งการให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงการค้าข้าวทั้งหมดทั้งในประเทศและส่งออก รวมทั้งโรงสีและผู้ค้าส่ง ได้รายงานสต็อกข้าวเหนียวมาที่กรมการค้าภายใน ภายในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 27 สิงหาคม 2562) สิ้นสุดเวลา 16.30 น. โดยสามารถรายงานออนไลน์ได้ด้วย
โดยอธิบดีกรมการค้าภายในจะตรวจสอบว่ามีการกักตุนข้าวเหนียวเพื่อปั่นราคาหรือไม่ และมีการจำหน่ายข้าวเหนียวราคาสูงเกินสมควรหรือไม่ ถ้าพบความผิด คือ 1. ไม่ได้มีการรายงานสต็อก 2.มีการกักตุน 3. มีการค้าขายในราคาสูงเกินสมควร ก็จะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
การไม่รายงานสต็อกหรือรายงานไม่ตรงกับความเป็นจริงนั้นจะมีโทษทั้งจำคุกและปรับ โดยจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการกักตุนก็จะจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีจำหน่ายราคาสูงเกินสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท ซึ่งเป็นกระบวนการที่กระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดติดตาม ทั้งนี้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจำหน่ายข้าวเหนียวหรือทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้าวเหนียวเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย
ส่วนเรื่องบรรเทาความเดือดร้อน กระทรวงพาณิชย์จะรีบหารือกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อจะหาลู่ทางว่าสามารถที่จะทำข้าวเหนียวออกจำหน่ายในราคาพิเศษได้หรือไม่ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้บริโภคขณะนี้