จำไปตลอดชีวิต! อุทาหรณ์ไว้ใจให้ญาติยืมรถไปใช้ สุดท้ายเอาไปขาย ใช้หนี้พนัน

1212

18 พ.ค. 66 – ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวฝากเป็นอุทาหรณ์ หลังญาติมาขอยืมรถแล้วนำไปขาย เพื่อติดหนี้การพนัน โดยเจ้าของเรื่องเล่าว่า

อุทาหรณ์สอนใจ อย่าไว้ใจญาติ
รถคงไม่ได้รถคืนแล้วแหละ เลยอยาก มาโพสไว้เป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกคนได้ระวัง

คือว่า “รถเราหาย” โดยลูกพี่ลูกน้องของภรรยา ได้ส่งข้อความมาขอยืมรถว่าจะเอาไปทำธุระ ซึ่งก่อนหน้านี้นางก็เคยมาขอยืมไปแล้วครั้งนึง เสร็จแล้วก็เอามาคืนปกติ แต่ครั้งนี้มาขอยืมแล้วหายไปเลย ติดต่อไม่ได้ (ปกติรถเราจะจอดอยู่บ้านแม่ยาย)

รถคันนี้ เป็นชื่อของภรรยา ซึ่งตอนที่เราอยู่ไทยเป็นรถที่เราใช้ประจำ ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้ ผมกับภรรยาอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ จะกลับไทย ปีละครั้ง และก็จะใช้รถคันนี้ตลอด

วันที่เรารู้ว่ารถเราหายไป คือวันที่ตำรวจมาที่บ้าน มาขอดูกล้องวงจรปิด เนื่องจากรถคนในซอยเดียวกันก็หายเช่นกัน โดยจากกล้องเลยเห็นว่า ลูกพี่ลูกน้องคนดังกล่าวได้ขับรถออกไป (เราจะไม่ขอลงรายละเอียด เรื่องรถอีกคันที่หาย)

หลังจากเห็นภาพ ทางครอบครัวภรรยาก็ได้พยายามติดต่อ ไปยังญาติคนดังกล่าวแต่ ติดต่อไม่ได้ ทุกช่องทาง ตอนนั้น ก็ยังมีหวังว่าอาจจะเอารถมาคืน อาจจะนำไปใช้ก่อน แต่พอเริ่มหาข้อมูล ก็พบว่า ลูกพี่ลูกน้องภรรยาเรา ติดการพนันหนักมาก ทั้งเข้าบ่อน ทั้งพนันออนไลน์ แถมยังเป็นหนี้นอกระบบ เคยมาขอยืมเงินเมียเราไป จนทุกวันนี้ก็ยังไม่คืน

หลังจากรู้ว่าเชิดรถไปแน่ๆ จึงให้แม่ยาย ไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจ เมืองฯ สมุทรปราการ โดยได้รับการมอบอำนาจจากเมียของเรา เอาจริงๆ เรื่องค่อนข้างซับซ้อน เพราะอย่างแรกเลยเป็นญาติที่สนิทกัน ด้วยความเป็นญาติจะทำอะไรก็เกรงใจ (อันนี้จะจำไปตลอดชีวิตเลยว่าจะไม่ไว้ใจใครอีก)

ตอนแรกตำรวจ เหมือนไม่อยากรับเป็นคดี เพราะมีหลักฐานว่ามาขอยืม ซึ่งต่างจากรถอีกคัน ที่ขโมยไป ตอนแรกตำรวจจะให้แค่ลงบันทึกประจำวัน แต่แม่ยายเราไม่ยอม หลังจากมีหมายจับ ประมาณสัก เดือนกว่านางก็ถูกจับได้ที่ จ.นครปฐม ที่รู้มาคือ เมายา ไปปล้นเค้า หรืออะไรนี่แหละ ไม่แน่ใจ คนเล่า ก็เล่าวกไปวนมา งงๆ แต่ที่แน่ๆ คือ พอถูกจับก็ถูกส่งตัวมาที่ สป.

พอมาถึง สป. ตำรวจถาม นางก็บอกว่า เอารถเรา (กับอีกคันที่ขโมยไป) ไปขาย ที่บ่อนแห่งหนึ่ง แต่ไม่บอกว่าที่ไหน (อันนี้ไม่แน่ใจว่าตำรวจบอกหรือใครบอก) โดยรถเราขายไป 60000 อีกคันนึง ขายไป 40000 (รถเพิ่งจะผ่อนหมดด้วย เวรแท้) แต่อันนี้เราว่ามันแปลกๆ ทำไมถึงไม่ยอมบอกว่าไปขายที่ไหน ทั้งๆที่เราก็บอกแล้วว่า ถ้าบอกจะไม่เอาเรื่อง และยอมเอาเงินไปไถ่คืนเอง

หลังจากวันที่รถหาย นี่ก็สวมบทนักสืบโซเชียล ออกไปตามหา แฝงตัว ตามเพจรับซื้อรถหลุดจำนำ รถไม่มีทะเบียน จะบอกว่าตกใจมาก เพราะรถพวกนี้ไม่ควรมีการซื้อขาย แต่พอเข้าไปในเพจ กลับมีการซื้อขายกันอย่างปกติ และเยอะด้วย มีทั้งแบบ ไม่มีทะเบียน แบบสวมทะเบียนแท้ ทะเบียนเทียม มากมายก่ายกอง แถมราคาแสนถูก (ตำรวจปล่อยได้ไงวะ) ใครมีรถใหม่ๆ แนะนำติด GPS ไว้ก็ดี (แต่มันก็มีวิธีตัดสัญญาณอยู่ดี)

ตอนนี้คนร้ายอยู่ในเรื่อนจำ ก็ยังคงไม่บอกว่าเอารถไปขายที่ไหน (ตามที่ตำรวจบอก) ขั้นตอนทางคดี เราก็ไม่รู้ แถมอยู่ ต่างประเทศ จะทำอะไรก็ลำบาก(ไม่ใช่ลำบากธรรมดา “ลำบากเข้าขั้นลำเค็ญ”) ไม่รู้ว่าตำรวจจะสืบต่อไหม เพราะถ้าไปขายที่บ่อนจริงๆ ยังไงบ่อนนั้นก็ต้องมีคนคุมล่ะมั้ง (นี่ไม่ได้บอกนะว่าคนคุมเป็นคนมีสี)

เพิ่มเติม มีคนบอกว่า ถึงรถจะไม่อยู่แล้ว หรือถูกแยกชิ้นส่วนไปขายแล้ว ยังไงตำรวจก็ต้องสืบและติดตามต่อว่าใครเป็นคนรับซื้อไป เพราะไม่ใช่แค่ผิด ฐานรับซื้อของโจร แต่ยังมีความผิดในอีกหลายกระทงอีกด้วย (ซึ่งอันนี้เราเห็นด้วย)

สุดท้ายนี้อยากจะฝากว่า โบราณว่า “รถ ปืน เมีย” ห้ามให้ใครยืม…มันคือจริง!! วันแรกๆที่เรารู้ว่ารถหาย เรากับแฟนนี่นอนไม่หลับเลย เครียดกันมาก คิดกันว่าจะทำยังไงดี เป็นญาติกันแท้ๆ ทำไมถึงมาทำกันแบบนี้ ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใคร ฉะนั้น อย่าให้ใครยืมอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า เราไม่รู้ว่าเบื่องหลังเค้าทำอะไรไว้บ้าง อย่าไปค้ำประกันใคร โลกปัจจุบันไม่ได้ใจดีกับมึงนะคับ

ปล. เพื่อนเราหลายคนบอกให้ส่งเรื่องไปที่สื่อ เรื่องจะได้เดินเร็ว ซึ่งเราก็ส่งไปบ้างแล้ว แต่เราอยู่ ต่างประเทศ จะทำอะไรก็ลำบาก เราก็เข้าใจว่า ตร. มีงานเยอะ แต่นี่ สองเดือนแล้ว รถเรายังไม่รู้เลยว่าอยู่ไหน
ปล2. ขอบคุณเพื่อนหลายคนที่คอยช่วยแชร์ สอบถาม และให้คำปรึกษาด้วยคับ เป็นคนเพื่อนไม่เยอะ แต่ที่มีอยู่ก็ถือว่าคุณภาพ
ปล.สุดท้าย ใครเห็นรถในภาพช่วยแจ้งมาหน่อย ตอนนี้ก็ยังหาอยู่ หรือคนที่รับซื้อไปเห็น จะให้เอาเงินไปไถออก ก็ยอม ถ้าเราได้รถคืน มีเงินรางวัลให้นะจ้ะ

โพสต์ต้นฉบับ