12 มิ.ย. 66 – นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การค้าในต่างประเทศ ล่าสุดได้รับรายงานจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จากนางสาวอนงค์นารถ มหาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งทูตพาณิชย์ รายงานว่า
ในปี 2565 ตลาดชาไข่มุกโลกมีมูลค่าการค้า 2.75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 95,000 ล้านบาท) โดยตลาดชาไข่มุกอิตาลีมีมูลค่าการค้าถึง 42 ล้านยูโร (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) หรือมากกว่า 15% ของตลาดยุโรป และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยที่ 18% ต่อปี และจะมีมูลค่าถึง 98 ล้านยูโร (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) ภายในปี 2570 ซึ่งยังมีอนาคตอีกมาก
โดยร้านชานมไข่มุกส่วนใหญ่กระจายอยู่ในเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศประมาณ 30 เมือง (มิลาน โรม โบโลญญ่า และตูริน) โดยมีการเพิ่มจำนวนเป็น 236 ร้าน ในเดือน มี.ค. 2566 อย่างไรก็ตามยังไม่มีผู้นำที่ชัดเจนและโดดเด่น จึงยังเหลือพื้นที่อีกมากสำหรับเปิดตัวเครือข่ายใหม่และการขยายเครือข่ายที่มีอยู่
ทั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีในของผู้ประกอบการไทยและร้านอาหารไทย ที่จะขยายตลาดชาไทยและวัตถุดิบสำหรับทำชาไข่มุก เนื่องจากตลาดแฟรนไชส์ของไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับชาไข่มุกก็มีจำนวนมาก และนอกจากนี้ เว็บไซต์ tasteatlas ก็ยังจัดอันดับให้ชาเย็น หรือชานมเย็นของไทย (Thai Iced Tea) เป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกฮอล์ที่มีรสชาติดีที่สุดในโลกในอันดับ 7 จากทั้งหมด 100 อันดับเป็นโอกาสอันดีในการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคในอิตาลีได้รู้จักชาไทยมากขึ้น
“ตลาดชาไข่มุกในอิตาลียังเติบโตได้อีกมาก และยังต้องมีการพัฒนาด้านวัตถุดิบอีกมาก จึงเป็นโอกาสดีสำหรับการลงทุนทั้งในเรื่องการทำธุรกิจแบบแฟรนไชส์ (Franchise) และในการจัดหาวัตถุดิบต่างๆ แม้บางรายการสามารถผลิตได้แล้วในอิตาลีก็ตาม แต่ทางด้านประสบการณ์ยังตามประเทศทางเอเชียไม่ทัน ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถร่วมลงทุนในธุรกิจเครื่องดื่มดังกล่าวกับนักธุรกิจชาวอิตาเลียน นำวัตถุดิบที่มีคุณภาพที่ไทย มีศักยภาพในการนำเสนอ รวมถึงท็อปปิ้งแปลกใหม่ๆ ที่ทางเอเชียจะมีหลากหลายกว่า และมีศักยภาพดี หากมีการนำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจ” เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว