เชียงใหม่ สาวถูกเจ้าหนี้ตามถึงบ้าน ปีนระเบียงเอามีดจี้คอตัวเอง เจ้าหน้าที่ต้องเข้าเกลี้ยกล่อม เผยเหตุลงทุนเอาโทรศัพท์มาขาย 90 กว่าเครื่อง แต่ไม่มีเงินจ่าย รวมมูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาท ด้านคู่กรณีวอนขอให้พูดคุยด้วยดี และหาทางออกนำเงินมาคืน
เมื่อเวลา ประมาณ 13.00 น. ของวันนี้ (26 มิ.ย.66) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวใช้มีดปอกผลไม้จี้คอ และไปนั่งร้องไห้บนป้ายร้านระเบียงชั้น 2 ของตึก พร้อมกับขู่จะฆ่าตัวตาย โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณ ตึกแถวย่านบิสเนสพาร์ค ม.8 ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงนำกำลังเจ้าตรวจสอบและควบคุมเหตุดังกล่าว
โดยต่อมาเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบหญิงสาว อยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ร้องไห้ ภายในมือถือมีดปอกผลไม้จี้คอตัวเอง จากการตรวจสอบทราบเป็นหญิง อายุประมาณ 35 ปี ทางเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยญาติของหญิงสาวคนดังได้พยายามช่วยกันพูดคุยเกลี้ยกล่อม จนกระทั่งต่อมาเจ้าตัวเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ แล้วได้ลงมาจากระเบียงพร้อมกับเอามีดปอกผลไม้ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ ทำให้สามารถช่วยเหลือลงมาได้อย่างปลอดภัยในที่สุด
ขณะที่ต่อมาจากการสอบถามถึงมูลเหตุที่เกิดขึ้น นายเบิร์ด อายุ 37 ปี คู่กรณีที่มาติดตามทางหนี้ ให้สัมภาษณ์ว่า ทราบว่าหญิงคนดังกล่าว ได้ไปลงทุนโดยการนำโทรศัพท์มือถือจำนวนกว่า 90 เครื่อง มูลค่าประมาณ 1.6 ล้านบาท มาลงทุน แต่ไม่ได้นำเงินคืนให้กับเจ้าหนี้ที่นำโทรศัพท์มาขาย จึงทำให้ในวันนี้ ทางเจ้าหนี้เดินทางมาจาก กทม.เพื่อมาติดตามทวงหนี้ที่เอาไป ทำให้ตนเกิดความเครียดเนื่องจากไม่มีเงินคืนให้จึงพยายามใช้มีดจี้คอแล้วออกมานั่งที่บริเวณระเบียงชั้น 2 ของตึกเพื่อจะฆ่าตัวตาย จนกระทั่งมีการโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือและเจรจาจนหญิงคนดังกล่าว สงบสติอารมณ์ลงในที่สุด
โดยทางด้าน นายเบิร์ด อายุ 37 ปี คู่กรณีที่มาติดตามทางหนี้ เล่าว่าหญิงคนดังกล่าว ได้ลงทุนกับตนเองโดยการสั่งของเป็นโทรศัพท์มือถือ สมาร์ตโฟนจำนวนประมาณ 90 เครื่อง เป็นเงินมูลค่าประมาณ 1.6 ล้านบาท โดยมีการสั่งของกับตนมาตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน-เดือนธันวาคม และเดือนมกราคม จนกระทั่งถึงรอบจ่ายก็มีปัญหาเกิดขึ้น เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยหญิงคนดังกล่าว ไม่มีเงินมาจ่ายค่าโทรศัพท์จำนวน 90 กว่าเครื่องที่เอาไป แต่ทางหญิงคนดังกล่าว ได้เอาโทรศัพท์ไปขายหมดแล้ว และที่ผ่านมาตนได้เคยพูดคุยมาตลอดว่าให้ทางหญิงคนดังกล่าว พยายามแบ่งจ่ายให้ก็ได้ แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใด อีกทั้งยังถูกปิดกั้นช่องทางติดต่อ ซึ่งตนก็มีหลักฐานเอกสารทั้งหมดที่ทางหญิงคนดังกล่าว ได้ตกลงเอาโทรศัพท์ไปก่อนหน้านี้มาแสดงด้วย
จนกระทั่งในวันนี้ ตนต้องเดินทางจาก กทม.มาหาที่ร้าน โดยเมื่อมาถึงก็พบกับแฟนหนุ่มของคู่กรณี พร้อมทั้งได้ให้ขึ้นไปเจรจาพูดคุยกัน แต่แล้วจู่ๆ ขณะพูดคุยกัน ทางหญิงคนดังกล่าว ก็วิ่งไปหยิบมีด แล้วขู่จะฆ่าตัวตาย จากนั้นก็วิ่งไปที่ระเบียงชั้น 2 ของตึก ทางตนกับคนอื่นๆ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายเบิร์ด บอกอีกว่า ในส่วนของวันนี้ตนตั้งใจที่จะมาพูดคุยเพื่อให้อีกฝ่ายยอมจ่ายเงินคืนมาให้กับตน ซึ่งในส่วนของการดำเนินการเรื่องคดีตนก็ได้มีการประสานกับทางทนายให้มีการดำเนินการเบื้องต้นแล้ว แต่ที่มาคุยในวันนี้ก็อยากที่จะประนอมกันและยอมให้อีกฝ่ายชำระหนี้ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมคุยและเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนอยากจะฝากถึงทางด้านคู่กรณีด้วยว่า อยากให้มาเคลียร์ หรือพูดคุยกัน เพื่อให้เรื่องนี้จบด้วยดีเท่านั้น