เคาะ! ขยายเวลาต่างด้าว 4 สัญชาติ สถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อยู่ทำงานในไทยได้ถึง 31 ก.ค. 66

328

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 66 ได้เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และมอบหมายให้ กระทรวงแรงงานและกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการออกประกาศที่เกี่ยวข้องต่อไป

การพิจารณาของ ครม. ครั้งนี้สืบเนื่องจาก ครม.เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 66 ได้เห็นชอบให้คนต่างด้าวตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 65 (คนต่างด้าว 4 สัญชาติ ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 ก.พ. 66) ที่ประสงค์จะทำงานต่อในประเทศไทยจะต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตภายใน 13 ก.พ. 66 และให้ไปดำเนินการเพื่อให้ได้เอกสารหลักฐานต่างๆ แล้วนำมายื่นกับกรมการจัดหางานภายใน 15 พ.ค. 66 ซึ่งภายหลังสิ้นสุดช่วงเวลาดังกล่าวแล้วปรากฎว่ามีคนต่างด้าวประมาณ 5 แสนคนยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่กำหนด จึงจำเป็นต้องผ่อนผันให้กับคนต่างด้าวที่สถานะไม่ถูกกฎหมายเพื่อให้นายจ้าง ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวได้อย่างเหมาะสม และไม่ให้กระทบต่อความต่อเนื่องในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิด19 ในขณะนี้

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับแนวทางการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ จะครอบคลุมแรงงานเป้าหมาย 3 กลุ่ม ได้แก่

1) คนต่างด้าว 4 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางที่มีอายุหรือหมดอายุ และมีรอยตราประทับซึ่งการอนุญาตทำงานหรืออนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงโดยกฎหมาย เช่น กรณีคนต่างด้าวออกจากนายจ้างรายเดิมแล้วไม่สามารถหานายจ้างรายใหม่ได้ภายในเวลากำหนด หรือ กรณีไม่สามารถทำงานต่อไปได้เนื่องจากดำเนินการตามมติ ครม. ที่ผ่านมาไม่ครอบคลุมทุกขั้นตอน
2) คนต่างด้าว 4 สัญชาติฯ ที่ระยะเวลาการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร (Over Stay) และ 3) คนต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายหรือการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง และทำงานกับนายจ้างก่อนที่ ครม. มีมติให้ความเห็นชอบ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า วิธีดำเนินการบริหารจัดการนั้น ประกอบด้วย 1) ผ่อนผันให้คนต่างด้าวเป้าหมายทั้ง 3 กลุ่มอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและทำงานได้ถึง 31 ก.ค. 66 2) ให้นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อ พร้อมรูปถ่ายเพื่อแจ้งความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว (Name list) ต่อกรมการจัดหางานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ณ สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว สำนักงานจัดหางานจังหวังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ เป็นเวลา 15 วัน ตามที่กรมการจัดหางานกำหนด และ 3) เมื่อ Name list ได้รับการอนุมัติแล้ว คนต่างด้าวจะใช้ Name Listดังกล่าวเป็นเอกสารหลักฐาน แสดงว่าคนต่างด้าวได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานได้ถึง 31 ก.ค. 66

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมาย ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์มีสิทธิอยู่ในราชอาณาจักรตามสิทธิของคนต่างด้าว ซึ่งเป็นบิดามารดา โดยดำเนินการตามแนวทางที่กระทรวงแรงงานกำหนดต่อไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้ประเมินผลที่คาดว่าจะได้รับจากการออกแนวทางบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวฯ ครั้งนี้ว่า จะเป็นการผ่อนผันให้คนต่างด้าวเป้าหมายสามารถอยู่ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวเพื่อทำงานต่อไปได้เพื่อรอระยะเวลาดำเนินการเอกสารให้ถูกต้องและสามารถทำงานในประเทศไทยได้ตามกำหนดอย่างถูกต้องต่อไป และคนต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด19 ด้วย การผ่อนผันดังกล่าวจะช่วยแก้ไขการขาดแคลนแรงงานของผู้ประกอบการ และยังคงคำนึงถึงความสมดุลของเศรษฐกิจประเทศและความมั่นคง

นอกจากนี้ การบริหารจัดการที่เหมาะสมจะเป็นการช่วยคุ้มครองให้คนต่างด้าวได้รับการจ้างงานโดยถูกกฎหมาย มีสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ คุ้มครองสิทธิที่พึงได้ และจะมีให้ภาครัฐมีข้อมูลการทำงานของคนต่างด้าวที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เพื่อให้สำหรับการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวในระยะต่อไป