เชียงใหม่ พนักงานร้านนวดหอบหลักฐานแจ้งความยันความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกลูกค้าคู่กรณีโพสต์โซเชี่ยลอ้างเข้าใช้บริการแล้วถูกลวนลาม เผยตนถูกใช้เท้ายันหน้าจนบาดเจ็บ ไกล่เกลี่ยกันแล้วแต่ไม่ยอมจบเรื่อง ยันดำเนินคดีถึงที่สุด
เมื่อช่วงสายเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (10 ก.ค. 66) นายพิพัฒน์ อายุ 39 ปี ลูกจ้างร้านนวดเพื่อสุขภาพแห่งหนึ่งย่านถนนวัวลาย อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยทางเจ้าของร้าน เดินทางนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ภายหลังจากที่เจ้าตัวถูกคู่กรณีซึ่งเป็นลูกค้าชายรายหนึ่งที่เข้ามาใช้บริการกับแฟนสาว ทำร้ายร่างกาย ขณะที่ตัวเองกำลังให้บริการนวด อีกทั้งถูกทางลูกค้าชายคนดังกล่าวที่เข้ามาใช้บริการกล่าวหาว่า กระทำการลวนลามขณะที่กำลังนวดอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้นั้นได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่สถานีตำรวจแล้วหลังเกิดเหตุเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ 7 ก.ค.66 ที่ผ่านมา โดยทางคู่กรณีได้ยอมชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท พร้อมทั้งขอโทษ และดูเหมือนว่าเรื่องราวดังกล่าวจะจบแล้ว แต่ทางคู่กรณีกลับนำเหตุการณ์ดังกล่าวไปโพสต์ลงในโซเชียล จนทำให้ตัวเองและทางร้านนวดที่ตัวเองเป็นลูกจ้างได้รับความเสียหาย อีกทั้งตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บจากการที่ถูกลูกค้าชายคู่กรณีคนดังกล่าวใช้เท้ายันเข้าที่หน้า จนบริเวณดวงตาด้านขวามีรอยฟกช้ำ และมีเลือดคั่งในดวงตา ทำให้ตัวเองกับทางเจ้าของร้านต้องเดินทางเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับทางคู่กรณีอีกครั้ง
โดยทาง นายพิพัฒน์ ลูกจ้างร้านนวดที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุเป็นช่วงค่ำเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันศุกร์ที่ 7 ก.ค.66 ที่ผ่านมา โดยทางลูกค้าคู่กรณี ได้เดินทางมาที่ร้านกับแฟนสาว พร้อมทั้งแจ้งกับทางร้านว่า จะขอใช้บริการนวดน้ำมัน 1 ชั่วโมง ตนจึงเตรียมสถานที่และได้เรียกให้บริการลูกค้าตามปกติ โดยตอนนั้นแฟนสาวของหนุ่มคู่กรณีก็ขึ้นมาด้วย และนั่งรออยู่ที่ห้องที่เป็นผ้าม่านปิดห่างกันไม่ถึง 2 ก้าว แต่ระหว่างที่กำลังนวดให้ลูกค้าชายคู่กรณีได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ขณะที่กำลังนวดช่วงขาให้นั้น จู่ๆ ลูกค้าชายคู่กรณีก็ใช้เท้ายันเข้าที่หน้าตนอย่างจัง จนตนตกใจและไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใด จากนั้นตนก็เรียกพนักงานที่อยู่ด้านล่างของร้านอีกคนขึ้นมา พร้อมกับแจ้งว่าตนถูกทำร้าย แต่ทางลูกค้าชายคนดังกล่าว กลับโวยวายว่าตัวเองโดนกระทำอนาจาร ล่วงละเมิดทางเพศ และหาว่าตนลวนลาม
หลังจากนั้นตนกับลูกค้าคู่กรณีก็ได้มาเจรจาพูดคุยกัน พร้อมทั้งตนก็ได้มีการขอโทษกับทางลูกค้าไป ซึ่งมีการบันทึกคลิปเสียงที่ตนขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต และเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งจากการเจรจา ทางคู่กรณีก็ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 1,000 บาท แต่หลังจากนั้นทางคู่กรณีกลับนำเรื่องราวไปโพสต์ลงในโซเชียล พร้อมกับยังได้ให้สัมภาษณ์กับทางนักข่าว ทำให้ตนกับทางร้านได้รับความเสียหาย เนื่องจากในวันเกิดเหตุตนก็ได้พูดคุยกันกับทางคู่กรณีต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไกล่เกลี่ยกันเป็นที่เรียบร้อย และตนอยากยืนยันความบริสุทธิ์ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยว่า สิ่งที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะตนทำงานนี้มากว่า 6 ปี ตนไม่เคยไปกระทำการล่วงละเมิด หรือทำอนาจารลูกค้าเลยแม้แต่รายเดียว และไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ลูกค้าทำร้ายร่างกายในลักษณะเช่นนี้แต่อย่างใด
นายพิพัฒน์ บอกอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนกับทางร้านเสียหายเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากที่คู่กรณีเอาเรื่องไปโพสต์ลงโซเชียล ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ทั้งต่อตนและต่อทางร้าน อีกทั้งในคอมเมนต์ก็ยังมีการระบุพิกัดร้านอย่างชัดเจน ซึ่งในส่วนของทางร้านก็ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีเป็นที่เรียบร้อย ส่วนของทางตนก็จะแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกันจากการที่ตนถูกทางคู่กรณีทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ จากที่ก่อนหน้านี้เป็นเพียงการเจรจาไกล่เกลี่ยและไม่มีการดำเนินคดี แต่หลังจากที่มีการนำเรื่องราวไปโพสต์นั้น ตนก็พร้อมที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันจะดำเนินคดีกับทางคู่กรณีให้ถึงที่สุด
