เชียงใหม่ เข้าพรรษา ทำบุญกราบขอพร “หลวงปู่พรเทพ ณ เชียงใหม่” อายุ 107 ปี วัดศาลาปางสัก อำเภอดอยสะเก็ด เผยสายตายังดีและความจำเป็นเลิศ
เข้าพรรษาทำบุญกราบขอพร หลวงปู่พรเทพ ณ เชียงใหม่ อายุ 107 ปี ที่จำวัดศาลาปางสัก อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ที่จำวัดอยู่เพียงรูปเดียวแต่สายตาดีและความจำเป็นเลิศ เล่าประวัติศาสตร์เคยรับราชการทหารเป็นที่ปรึกษาของ จอมพล ป พิบูลสงคราม สมัยติดยศพันตรี และเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนจอมพลประภาส จารุเสถียร ซึ่งสนิทกัน และประวัติหลวงปู่ ได้อย่างแม่นยำเคยเข้าเฝ้าในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2501 บวชมาแล้วกว่า 60 พรรษา
เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นำเตียงนอนผู้ป่วย ที่ปรับระดับความสูง ขึ้นลงได้ โดยได้รับบริจาคจากเจ้าคณะตำบลแม่โป่งแม่ฮ้อยเงิน นำไปถวายให้กับหลวงปู่ พรเทพ ณ เชียงใหม่ ที่จำพรรษาที่วัดศาลาปางสัก อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เพียงรูปเดียวและป่วยหลายโรค ทำให้เดินไม่สะดวก และทางเจ้าหน้าที่ ได้เก็บกวาดทำความสะอาด ศาลาที่พักใหม่ เพื่อจะให้หลวงปู่ลงมาจำวัดด้านล่าง ทำให้หลวงปู่จะได้สะดวกสบายมากขึ้นทั้งนี้หลวงปู่พรเทพเล่าว่าเกิดปี 2460 หรือปีนี้จะอายุ 107 ปี และน่าจะเป็นพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่มีอายุมากสุดของจังหวัดเชียงใหม่ และหลวงปู่พรเทพยังนำภาพถ่ายสมัยเด็กๆ ตอนอายุ 5 ขวบ มาให้ดูรวมทั้งตอนอายุ 41 ปี ยังไม่ได้บวชโดยเป็นภาพถ่ายที่บ้านอำมาตย์เอกพลตรีเจ้าบุรีรัตน์หรือบ้านบิดาปัจจุบันเป็นสำนักงานกาชาดเชียงใหม่ภาคที่ 3 ซึ่งภาพถ่ายกับเจ้านายฝ่ายเหนือ และยังมีจอมพลประภาส จารุเสถียร ซึ่งเคยเรียนหนังสือมาด้วยกันซึ่งในภาพมี พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนี พันปีหลวงครั้งเสด็จพระราชดำเนินจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2501 ซึ่งหลวงปู่พรเทพ ยังมีสายตาดีและความจำเป็นเลิศ แม้ว่าจะอายุมากถึง 107 ปีโดยได้ให้พรกับคณะที่มาให้ความดูแล และช่วยเหลือ เล่าตั้งแต่สมัยอดีตจนมาถึงปัจจุบันและให้พรนานเกือบ 5 นาทีจนคณะบางคน ถึงกับเป็นเหน็บต้องเปลี่ยนท่านั่ง
ด้านนายอภิพงศ์ คงสัมพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเชิงดอย เปิดเผย ว่าจากการสอบถามข้อมูลสุขภาพของหลวงปู่ จากศูนย์สุขภาพโรงพยาบาลดอยสะเก็ดมาตรวจสุขภาพหลวงปู่ ทราบว่า หลวงปู่มีอาการป่วยโรคเบาหวาน โรคความดัน เบื้องต้นทางเทศบาลได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่ผลัดเปลี่ยนมาดูแลหลวงปู่เป็นประจำ พร้อมกันทางเทศบาลตำบลเชิงดอยก็จะส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุข เข้ามาดูแล ในด้านความเป็นอยู่และดูแลสุขภาพตลอดตั้งแต่หลวงปู่มาจำวัดอยู่ที่นี่ ขณะเดียวกันทราบว่าหลวงปู่ ไม่ได้ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนมานานไม่ต่ำกว่า 50 ปี เหลือเพียงหนังสือสุทธิเท่านั้น ซึ่งตนจะได้ประสานไปยัง นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบฐานข้อมูลและนำเจ้าหน้าที่มาถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนให้กับหลวงปู่ถึงที่ เพื่อที่จะสามารถไปใช้กับสิทธิ์การรักษาพยาบาลและอื่นๆ ต่อไป
หลวงปู่พรเทพ เล่าว่าตนเป็นบุตร ของ อำมาตย์เอก พลตรีบุรีรัตน์ ณ เชียงใหม่ และเจ้าหญิงบุปผา ณ เชียงตุง ตอนเด็กๆ เคยไปใช้ชีวิตต่างประเทศก่อนจะกลับมาบวชเณรได้ 3 พรรษา และสึกออกมาเรียนหนังสือจนจบและเคยรับราชการทหารเป็นปรึกษาของ จอมพล ป พิบูลสงครามซึ่งขณะนั้นท่านติดยศพันตรี และมีโอกาสรับราชการหลายแห่งจนเมื่อปี 2503 ขณะนั้นอายุได้ 43 ปีตัดสินใจบวชที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง เชียงใหม่ ก่อนจะออกเดินธุดงค์ ไปหลานสถานที่ทั้งต่างๆ ทั้งในประเทศและแถบเชียงตุง และจำพรรษาอยู่วัดหลายแห่งจนเมื่อปี 2557 ญาติโยมได้นิมนต์มาจำวัดอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน
