สาวเจ้าของร้านมือถือ แฉพฤติกรรมโจร ผัว-เมีย ตระเวนตบทรัพย์ ทำทีมาซื้อสินค้าวางอุบายโอนเงินโชว์สลิปปลอม แต่ยอดชำระไม่เข้าบัญชี ล่าสุดก่อเหตุทั่วเชียงใหม่ หลายร้านตกเป็นเหยื่อ ขณะที่คนร้ายยังลอยนวล เตือนร้านมือถือระวังตกเป็นเหยื่อ
ภาพวงจรปิดภายในร้านขายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่ง ย่านทุ่งเสี้ยว อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ บันทึกเหตุการณ์คนร้าย เป็นชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 กว่าปี สวมเสื้อยืนแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนขาสั้น ที่มากับหญิงสาวรูปร่างผอมตัวเล็ก สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขาสั้น โดยทั้งคู่เข้ามาทำทีติดต่อซื้อโทรศัพท์มือถือภายในร้าน แล้วต่อมาได้มีการตกลงจ่ายเงิน แต่วางกลอุบายทำทีสแกนเงินจ่ายให้กับทางร้าน พร้อมทั้งแสดงหลักฐานสลิปการชำระเงินในมือถือให้กับทางพนักงานดู แต่แท้จริงแล้วทั้งสองคนยังไม่ได้ชำระเงิน จากนั้นได้ออกจากร้านพร้อมสินค้า ที่สุดท้ายทางเจ้าของร้านมาทราบในภายหลังว่ายอดเงินที่ทางคนร้ายโชว์สลิปให้ดูนั้นไม่เข้าบัญชีแต่อย่างใด
ขณะที่ต่อมาพบว่ามีร้านโทรศัพท์อีกหลายร้านตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายเดียวกันนี้ ที่มีพฤติกรรมการก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในหลายพื้นที่ และล่าสุดได้ลงมือก่อเหตุที่ร้านขายโทรศัพท์แห่งหนึ่งในห้างโลตัส สาขาจอมทอง ได้โทรศัพท์มือถือมูลค่า 12,900 ไป 1 เครื่อง จากการก่อเหตุเมื่อวันที่ 30 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ทำให้ทางเจ้าของร้านผู้เสียหายต้องเข้าแจ้งความกับตำรวจ และนำหลักฐานมาเตือนภัยกับทางผู้สื่อข่าว
โดยทาง น.ส.พัชรพร เจ้าของร้านผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ก.ย.66 ที่ผ่านมา โดยคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 30 กว่าปี ได้เข้ามาที่ร้านกับผู้หญิงอีก 1 คน ซึ่งระหว่างนั้นมีน้องลูกจ้างพนักงานดูแลอยู่ และได้ทำทีมาติดต่อซื้อโทรศัพท์มือถือที่ร้าน โดยมีท่าทีปกติทั่วไป โดยชายคนดังกล่าวได้มาทำทีขอดูเครื่องโทรศัพท์ สอบถามข้อมูลสินค้าในร้าน ก่อนจะมีการตกลงกับทางพนักงานเพื่อซื้อสินค้า จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาชำระเงิน ก่อนที่ทางชายคนดังกล่าวจะนำสลิปการชำระเงินให้พนักงานดู ชายคนดังกล่าวได้มีการแอบปลอมแปลงสลิปเงิน โดยมีการวางแผนทำการ สแกนคิวอาร์โค้ด ผ่านช่องทางธนาคารออนไลน์ ที่ไม่ใช่แอปพลิเคชันของธนาคารโดยตรง แล้วนำมาโชว์ให้พนักงานดู เหมือนกับว่ามีการชำระเงินให้กับทางร้านแล้ว โดยมีการแสดงชื่อคนโอน ชื่อคนรับซึ่งเป็นชื่อของตน พร้อมทั้งมีรหัสตรงทุกอย่าง
กระทั่งผ่านไปประมาณ 5 นาที หลังชายคนดังกล่าวออกจากร้านไป ทางตนมาทราบภายหลังว่ายอดเงินไม่เข้าตามที่ทางชายคนดังกล่าวนำมาแสดงให้ดู โดยทางน้องพนักงานได้โทรมาสอบถามกับตน และเมื่อเห็นว่าเงินไม่ถูกโอนเข้ามาตามที่ทางชายคนดังกล่าวแสดงสลิปการชำระเงิน พนักงานก็ได้วิ่งตามไปแต่ก็ไม่ทันการและชายคนดังกล่าวก็หายไปแล้ว
ต่อมาตนได้มาติดตามเรื่องราว ก็พบว่าชายคนดังกล่าวได้เคยก่อเหตุในลักษณะแบบเดียวกันกับที่มาก่อเหตุที่ร้านหลายครั้ง และมีเพื่อนที่เปิดร้านขายมือถือด้วยกันถูกหลอกในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อวันที่ 24 ก.ย.66 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดก็พบว่าเป็นชายคนเดียวกันที่มากับผู้หญิง มีรูปพรรณตรงกัน และแต่งกายแบบเดียวกันเป๊ะ นอกจากนี้ยังทราบต่อมาอีกว่า มีร้านขายมือถือที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกในลักษณะเช่นนี้อีกประมาณ 4-5 ร้าน ตั้งแต่พื้นที่ จ.ลำพูน และใน จ.เชียงใหม่ ทั้งในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ และเขตรอบนอกตัวเมือง ซึ่งคิดว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะตระเวนทำพฤติกรรมแบบเดียวกันไปทั่ว รวมไปถึงยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุก็เป็นรถจักรยานยนต์คันเดียวกัน ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
น.ส.พัชรพร บอกอีกว่า หลังเกิดเรื่องตนได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมทอง ไว้แล้ว รวมไปถึงผู้เสียหายรายอื่นๆ ด้วย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถตามจับคนก่อเหตุได้ ตนเกิดความกังวลใจว่าคนร้ายจะไปก่อเหตุอีก และอยากนำเรื่องราวมาเตือนภัย ถึงพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าว เพื่อให้ระมัดระวัง และไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก รวมไปถึงอยากขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพราะการกระทำของบุคคลดังกล่าวก็ค่อนข้างอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย และยังคงไปตระเวนก่อเหตุหลายที่