8 ม.ค. 67 – นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา กรมการจัดหางาน ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า ถูกนายหน้าเถื่อนแอบอ้างเป็นตัวแทนของบริษัทเอกชน ประกอบกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน สามารถช่วยเหลือพาคนหางานไทยไปทำงานที่ประเทศแคนาดาได้ โดยมีพฤติการณ์โพสต์หาผู้สนใจทางสื่อโซเชียลมีเดีย หากมีผู้สนใจจะแลกเปลี่ยนไลน์และเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อเป็นการส่วนตัว โดยมักเลือกเหยื่อที่มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคอีสานและภาคเหนือ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่คนหางานให้ความสนใจไปทำงานต่างประเทศจำนวนมาก จากนั้นจะเรียกเก็บค่าดำเนินการและค่าใช้จ่าย เป็นเงิน 150,000 – 240,000 บาท ซึ่งมีผู้หลงเชื่อหลายรายทยอยโอนเงินแล้ว รายละ 15,000 บาท
แต่เมื่อผู้เสียหายสอบถามความคืบหน้าไปยังสายนายหน้าเถื่อนดังกล่าว ปรากฏว่ามีการบ่ายเบี่ยงและยืดระยะเวลาการเดินทางออกไปเรื่อยๆ สุดท้ายไม่สามารถจัดส่งไปทำงานต่างประเทศได้จริง จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งกรมการจัดหางานขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า ก่อนตัดสินใจโอนเงินให้สายนายหน้าหรือผู้แทนบริษัทรายใด ขอให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศจากกรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน doe.go.th/ipd เสียก่อน และสำหรับผู้ที่หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการโฆษณาการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน มีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“กรมการจัดหางาน ได้มีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้วิธีเดินทางไปทำงานต่างประเทศถูกต้องตามกฎหมาย 5 วิธี มาโดยตลอด เพื่อป้องกันมิให้คนไทยตกเป็นเหยื่อ รวมทั้ง เตือนภัยคนหางานให้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของมิจฉาชีพ ผ่านสื่อต่างๆ โดยมีกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ตรวจสอบ ป้องปราม และปราบปรามการหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีการดำเนินคดีสาย นายหน้าเถื่อนแล้ว 96 ราย หลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 141 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 10,214,953 บาท ซึ่งประเทศที่พบคนหางานถูกหลอกลวงไปทำงานมากที่สุด ได้แก่ เกาหลี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเยอรมัน ตามลำดับ” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว