24 ม.ค. 67 – สภากาชาดไทย Thai Red Cross Society ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยเรื่องราวของคุณยายวัย 73 ปีที่ตั้งใจบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ โดยได้ระบุว่า
“คุณแม่กับคุณพ่อ พากันไปบริจาคร่างกายไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พอแม่ป่วยเราเห็นท่าไม่ดี เราเลยติดต่อที่ที่แม่บริจาคร่างกายไว้ เนื่องจากมีการขั้นตอน มีกระบวนการในการจัดเก็บร่าง
ตอนนั้นลูกพี่ลูกน้องเราเขาเป็นพยาบาล เขาบอกว่าบริจาคดวงตาด้วยได้นะ ได้บุญเยอะ เพราะดวงตาของแม่สามารถช่วยคนได้อีก เราเลยถามทางโรงเรียนแพทย์ (ที่แม่บริจาคร่างกายไว้) ว่าถ้าแม่บริจาคดวงตาด้วย ยังสามารถบริจาคร่างกายด้วยได้ไหม เขาบอกว่าได้
เราเลยตัดสินใจบริจาคทั้งสองอย่าง สุดท้ายบริจาคดวงตาเรียบร้อย ทีมที่มารับร่างก็มาดูแต่ไม่สามารถบริจาคร่างกายได้เพราะไม่เข้าเงื่อนไข
การที่แม่บริจาคดวงตา เรารู้สึกดีนะ เพราะถึงจะไม่เข้าเงื่อนไขการบริจาคร่างกาย แต่อย่างน้อยดวงตาของแม่ก็ช่วยเหลือคนอื่นได้ เคสของคุณแม่ที่บริจาคดวงตาทำให้ญาติพี่น้องคนอื่นๆ เขาเริ่มสนใจ มีเอาโบรชัวร์มาดูไว้เหมือนกัน”
คุณวิทิดา เทียมจรรยา
ทายาทคุณซกเฮียง เทียมจรรยา ผู้บริจาคดวงตา
หมายเหตุ เงื่อนไขในการรับร่างอาจารย์ใหญ่เป็นไปตามที่คณะแพทยศาสตร์ของแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นคนกำหนด