หายซ่าหนุ่มห้าว ชักปืนขู่กลางสี่แยก ถูกตำรวจตามตัวทันควันหลังก่อเหตุ สาเหตุไม่พอใจถูกคู่กรณีด่าขับปาดหน้า ด้านพลเมืองดีแจ้งเบาะแส คลิปตอนเกิดเหตุ เผยยังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหวั่นโดนลูกหลง ฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนมีน้ำใจต่อกัน
ภาพคลิปวิดีโอจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดีคนหนึ่ง บันทึกเหตุการณ์ชายหนุ่มขับรถจักรยานยนต์ ชักอาวุธปืนข่มขู่ผู้ใช้รถใช้ถนน กลางสี่แยกข่วงสิงห์ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ อย่างอุกอาจช่วงกลางวันแสกๆ เวลาประมาณ 16.30 น. ของเมื่อวานนี้ (3 ก.พ.67) สร้างความหวาดผวาให้กับเจ้าของคลิปที่ขณะนั้นขับรถมาตามเส้นทางผ่านไฟแดงและกำลังเลี้ยวรถเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ และประชาชนที่ขับรถตามมา ก่อนชายผู้ก่อเหตุรายนี้จะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทาง โดยทางเจ้าของรถยนต์ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ต้องชะลอรถเพราะเกรงว่า อาจเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นได้ ก่อนที่จะตัดสินใจจอดรถโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ต่อมาหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการติดตามเบาะแสของคนร้าย จากหลักฐานข้อมูลผู้พบเห็นเหตุการณ์ที่จำลักษณะรูปพรรณคนร้ายและหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ชายคนดังกล่าวขับได้ และสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในช่วงค่ำของวันเดียวกันหลังเกิดเหตุ โดยจากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายศักรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาว ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ปรากฏในหลักฐานคลิปวงจรปิด และคลิปวิดีโอกล้องหน้ารถของพลเมืองดีที่แจ้งเบาะแส โดยชายคนดังกล่าวได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีเขียว ทะเบียนรถ งรจ 9xx เชียงใหม่ และจากการสืบสวนทราบว่า นายศักรินทร์ พักอาศัยอยู่หอพักแห่งหนึ่ง ในย่าน ถ.สนามกีฬา ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการติดตามจับกุมตัว
โดยจากการสอบสวนทางด้าน นายศักรินทร์ ผู้ก่อเหตุ ให้การสารภาพว่า เป็นบุคคลคนเดียวกันกับหลักฐานคลิปวิดีโอ ซึ่งสาเหตุนั้นมาจากมีการทะเลาะกันกับรถคู่กรณีอีกคันซึ่งเป็นรถจักยานยนต์ ที่ก่อนหน้านี้ได้ขับมาจากทางแม่ริม มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ โดยตนกับคู่กรณีได้ขับรถมาตามทางเดียวกัน แล้วเกิดมีปากเสียง เนื่องจากทางคู่กรณีได้ตะโกนด่าหาว่าขับรถปาดหน้า ทำให้ไม่พอใจจึงก่อเหตุชักอาวุธปืนเพื่อข่มขู่ ส่วนปืนที่ก่อเหตุนั้น นายศักรินทร์ อ้างว่าเป็นปืนอัดลมบีบีกัน พร้อมทั้งนำปืนดังกล่าวมาแสดงให้กับทางเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งยินยอมให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปทางด้านชายพลเมืองดี อายุ 37 ปี เจ้าของกล้องหน้ารถที่สามารถบันทึกเหตุการณ์นี้ได้ในวันเกิดเหตุ และได้เล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางวันของวานนี้ (3 ก.พ.67) เวลาประมาณ 16.30 น. ซึ่งตนได้ขับรถมาตามเส้นทาง ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง และมุ่งหน้ามายังแยกข่วงสิงห์ โดยถึงทางแยกขณะนั้นเป็นช่วงที่สัญญาณไฟอีกฝั่งเป็นสีเขียวพอดี ซึ่งตนกำลังเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ ระหว่างนั้นก็มีชายหนุ่มขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าดรีมผ่านหน้ารถ แล้วชักอาวุธปืนขึ้นมา ลักษณะคล้ายจะยิงหรือข่มขู่รถอีกคันที่ขับตามมา ตนเห็นดังนั้นก็ถึงกับตกใจและรีบชะลอรถเพราะกลัวจะโดนลูกหลง หรือเกิดเหตุอันตราย จนกระทั่งชายคนขับรถจักรยานยนต์ที่ชักปืนขับทิ้งห่างออกไป
ส่วนคู่กรณีที่ขับตามมานั้นเป็นรถจักรยานยนต์ที่ซ้อนกันมาสองคน โดยเท่าที่เห็นคนขับเป็นชายอายุมากแล้ว ซึ่งทั้งคู่ก็ทิ้งระยะห่างกับหนุ่มคู่กรณีพอสมควร หลังจากนั้นตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทราบว่ามีคนโทรแจ้งเบาะแสก่อนหน้านี้แล้วไม่นาน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคู่กรณีของชายคนดังกล่าว และมีเบาะแสเป็นเลขทะเบียนรถที่ชายคนก่อเหตุขับขี่หลบหนีแล้ว
พลเมืองดีคนนี้ บอกอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก และเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับตน ซึ่งในขณะนั้นตนก็รู้สึกตกใจมาก เพราะจู่ๆ ชายคนดังกล่าวก็ชักปืนขึ้นมาข่มขู่ โดยตนก็ไม่รู้ว่า อาวุธดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ แต่ก็ไม่ควรกระทำการในลักษณะแบบนี้ เพราะอาจทำให้ประชาชนคนอื่นเดือดร้อน และโดนลูกหลงไปด้วย พร้อมทั้งอยากฝากถึงประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ใช้รถด้วยความระมัดระวัง ใจเย็นมีน้ำใจต่อกัน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก และอยากฝากถึงคนก่อเหตุด้วยว่าอย่าทำแบบนี้อีก อยากให้เป็นพลเมืองดีกับสังคมดีกว่า เพื่อไม่ให้ใครต้องมาเดือดร้อน
