11 มี.ค. 67 – สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง แนวโน้มจะซื้อ บ้านใหม่ รถใหม่ ของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไป ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวน 1,035 ตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติ ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 5 – 9 มีนาคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา
เมื่อถามกลุ่มตัวอย่างว่า เวลานี้เป็นเวลาดีมีเงินพอที่จะซื้อสินค้าคงทน เช่น ตู้เย็นใหม่ เฟอร์นิเจอร์ใหม่ หรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.3 ระบุยังไม่มีเงินพอ ในขณะที่ร้อยละ 16.7 ระบุเวลานี้เป็นเวลาดีมีเงินพอที่จะซื้อสินค้าคงทน เช่น ตู้เย็นใหม่ เฟอร์นิเจอร์ใหม่ เป็นต้น
เมื่อถามกลุ่มตัวอย่างว่า เวลานี้เป็นเวลาดีมีเงินพอที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่หรือไม่ แบ่งออกเป็นห้วงเวลานี้กับอีก 12 เดือนข้างหน้า พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.6 ระบุ ยังไม่มีเงินพอ แต่ในอีก 12 เดือนข้างหน้า พบว่าสัดส่วนของคนที่ระบุยังไม่มีเงินพอลดลงเหลือร้อยละ 76.8 ในขณะที่ ร้อยละ 14.4 ระบุเวลานี้เป็นเวลาดีมีเงินพอที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่ และในอีก 12 เดือนข้างหน้า พบว่า สัดส่วนของคนที่ระบุ จะมีเงินพอที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 23.2
เมื่อถามกลุ่มตัวอย่างว่า เวลานี้เป็นเวลาดีมีเงินพอที่จะซื้อบ้านหลังใหม่หรือไม่ แบ่งออกเป็นห้วงเวลานี้กับอีก 12 เดือนข้างหน้า พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.9 ระบุ ยังไม่มีเงินพอ แต่ในอีก 12 เดือนข้างหน้า พบว่าสัดส่วนของคนที่ระบุยังไม่มีเงินพอลดลงเหลือร้อยละ 78.7 ในขณะที่ ร้อยละ 14.1 ระบุ เวลานี้มีเงินพอที่จะซื้อบ้านหลังใหม่ และอีก 12 เดือนข้างหน้า พบว่าสัดส่วนของคนที่ระบุ จะมีเงินเพียงพอในการซื้อบ้านหลังใหม่ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21.3
โดยสรุปรายงานของซูเปอร์โพลระบุว่า เวลานี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีเงินพอ หรือ บ่จี้ มากกว่ากลุ่มคนที่มีเงินพอหรืออู่จี้ ในการจับจ่ายใช้สอยด้วยเงินก้อนใหญ่ แต่อีก 12 เดือนข้างหน้า ผลสำรวจพบว่าประชาชนที่คิดว่าจะไม่มีเงินพอที่จะซื้อสินค้าคงทน เช่น ตู้เย็น เฟอร์นิเจอร์ รถยนต์ รวมไปถึง บ้าน จะลดลงโดยเชื่อว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้าเงินในกระเป๋าจะเริ่มดีขึ้นมีเงินมากพอ
อย่างไรก็ตามยังเป็นกลุ่มคนส่วนน้อยอยู่ เพราะคนส่วนใหญ่แม้จะให้เวลาอีก 12 เดือนข้างหน้า คนส่วนใหญ่ก็ยังระบุว่า จะยังไม่มีเงินพอ นั่นหมายถึงว่า เงินในกระเป๋าของประชาชนส่วนใหญ่จะยังขาดมือลากยาวต่อไปอีก
ที่มา : superpollthailand