13 ก.ค. 67 – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เยี่ยมชมข่วงเรียนรู้เยาวชน วิสาหกิจชุมชน ณ โรงเรียนเทิงวิทยาคม อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย โดยได้ย้ำถึงปัญหายาเสพติดว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่มากของสังคมไทยนอกจากปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน ซึ่งจากการลงพื้นที่ของนายกฯ ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง และเมื่อได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พบว่าทุกคนล้วนพูดถึงปัญหายาเสพติดกัน ซึ่งจังหวัดเชียงรายอยู่ใกล้กับชายแดนเมียนมา และมีการลักลอบนำเข้ายาบ้าค่อนข้างมาก ซึ่งเมื่อวานนี้นายกฯ ได้ไปตรวจติดตามกรณีที่มีการจับยาบ้าได้หลายล้านเม็ด ซึ่งปัจจุบันเรามีการจับยาบ้าได้หลายร้อยเปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมา โดยเรื่องที่น่าตกใจคือราคายาบ้ายังถูกอยู่ แสดงว่ายังมีปริมาณยาบ้าทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก รวมทั้งยังมีเรื่องน่าเศร้าอีกหลายเรื่อง เช่น กรณีที่เกิดเหตุที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการปะทะต่อสู้กันเกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ค้ายารายใหญ่ ที่ทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตไป 1 คน และบาดเจ็บอีก 1 คน โดยปัจจุบันผู้ร้ายยังหลบหนีเข้าไปอยู่ในป่า ซึ่งเรื่องนี้นายกฯ ให้ความสำคัญและตระหนักถึงเรื่องชีวิต และความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอย่างมาก รวมทั้งการให้ความสำคัญของการที่ต้องมีอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ให้เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันยังไม่เพียงพอ ดังนั้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบและเยียวยา รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์สำหรับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้มีความพร้อมในการป้องกันตัวเองในการปฏิบัติหน้าที่ และจับยาบ้าด้วย
พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้ชื่นชมโรงเรียนเทิงวิทยาคม ที่มีโปรแกรมที่ดีในเรื่องของการป้องกัน และการให้องค์ความรู้เกี่ยวกับผลร้ายของยาเสพติด รวมทั้งนายกฯ ได้ย้ำเรื่องของปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการที่เด็กและเยาวชนมองว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นความเท่ เรื่องเก๋ หรือความทันสมัยนั้น เป็นความเข้าใจผิดที่ร้ายแรง ตรงนี้เจ้าหน้าที่ต้องมีการกวดขันและตรวจจับ รวมทั้งให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนทุกคนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง รวมไปถึงเรื่องของเหล้าด้วย ที่ผู้ใหญ่ให้เด็กอายุประมาณ 5-6 ขวบไปซื้อเหล้า เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะเป็นการปลูกฝังนิสัยที่ไม่ถูกต้อง และเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เด็กเยาวชนเข้าใจว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง จึงขอฝากให้ผู้ใหญ่ได้คิดให้ลึกและตระหนักถึงเรื่องนี้ ก่อนที่จะให้เด็กไปทำอะไรในสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือไม่ถูกต้อง
