3 ส.ค. 67 – สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศฉบับที่ 9/2567 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก หลังได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่า ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบนและ สปป.ลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง จะทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 2 – 8 สิงหาคม 2567 ดังนี้
1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิด
น้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ
1.1 ภาคเหนือ
– จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่ฟ้าหลวง แม่สาย เชียงแสน เชียงของ เวียงแก่น แม่จัน ดอยหลวง เวียงเชียงรุ้ง พญาเม็งราย ขุนตาล เวียงชัย เทิง และแม่ลาว)
– จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอแม่อาย ฝาง เวียงแหง พร้าว และแม่ออน)
– จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ปางมะผ้า และสบเมย)
– จังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง แม่ระมาด และแม่สอด)
– จังหวัดลำปาง (อำเภอวังเหนือ และแม่ทะ)
– จังหวัดพะเยา (อำเภอภูซาง ปง เชียงคำ และดอกคำใต้)
– จังหวัดน่าน (อำเภอเมืองน่าน เฉลิมพระเกียรติ ทุ่งช้าง สองแคว บ่อเกลือ ปัว ท่าวังผา สันติสุข และแม่จริม)
– จังหวัดแพร่ (อำเภอร้องกวาง และลอง)
– จังหวัดอุตรดิตถ์ (อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และท่าปลา)
– จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอนครไทย)
1.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
– จังหวัดเลย (อำเภอเชียงคาน และปากชม)
– จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย ศรีเชียงใหม่ โพนพิสัย และรัตนวาปี)
– จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ ปากคาด พรเจริญ บุ่งคล้า โซ่พิสัย เซกา และบึงโขงหลง)
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ ๘๐ บริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา น่าน พิษณุโลก เลย หนองคาย บึงกาฬ และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนน้อยที่สุด
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ ลำน้ำงาว (อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย) แม่น้ำสาย (อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย) แม่น้ำน่าน (อำเภอเมืองน่าน เวียงสา เชียงกลาง ภูเพียง และท่าวังผา จังหวัดน่าน) แม่น้ำยม (อำเภอสอง และหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ อำเภอปง จังหวัดพะเยา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก) ลำน้ำปาด (อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์) แม่น้ำแควน้อย (อำเภอนครไทย และวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก)