กรมอนามัยเตือน! ดื่ม “ชานม” หวานๆ ทุกวัน ระวังเสี่ยงเป็นโรค “นิ่วในไต” แนะดื่มให้พอดี สั่งแบบหวานน้อย 0-25%

87

6 ส.ค. 67 – กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่ข้อมูลทางด้านสุขภาพประเด็นเกี่ยวกับการดื่มชานมหวานๆ ทุกวัน ที่อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่วในไตได้ โดยได้อธิบายว่า

ชานมเย็น หวานๆ แก้วโปรดที่ใครหลายคนติดใจ อาจไม่ใช่แค่ตัวการทำให้น้ำหนักพุ่งปรี๊ดอย่างเดียว แต่มันยังแอบแฝงอันตรายที่น่ากลัว นั่นก็คือ “นิ่วในไต”

นิ่วในไต เกิดจากการตกผลึกของแร่ธาตุต่างๆ ในปัสสาวะ จนรวมตัวกันเป็นก้อนแข็งๆ มีขนาดตั้งแต่เม็ดทรายยันลูกปิงปอง ซึ่งเจ้าก้อนนิ่วเนี่ยแหละ ตัวแสบเลย มันจะไปอุดตันทางเดินปัสสาวะ ทำให้อั้นฉี่ไม่ได้ ปวดท้องรุนแรง บางรายถึงขั้นไตวายได้เลย

ชานมหวาน นอกจากจะมีน้ำตาลมหาศาล ยังมีสารอาหารบางอย่าง ที่เป็นตัวเร่งให้เกิดนิ่วในไต ได้แก่
– น้ำตาลฟรุคโตส ฟรุคโตสจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ไตทำงานหนัก และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว
– แคลเซียม ชานมบางชนิดมีส่วนผสมของนม ซึ่งมีแคลเซียมสูง แคลเซียมส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ และอาจตกผลึกเป็นนิ่วได้
– ออกซาเลต สารนี้พบได้ในใบชา ออกซาเลตจะจับตัวกับแคลเซียม กลายเป็นนิ่วชนิดแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากที่สุด

ดื่มชานมยังไง แบบสุขภาพดี
1. ลดหวาน! หรือสั่งแบบหวานน้อย 0-25%
2. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ น้ำเปล่าช่วยเจือจางปัสสาวะ ลดการตกผลึกของแร่ธาตุ
3. เลือกนมไขมันต่ำ นมพร่องมันเนยหรือนมถั่วเหลือง ช่วยลดปริมาณแคลเซียม
4. ทานผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย มะเขือเทศ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว

ทั้งนี้ เราสามารถดื่มชานมเย็นได้ แต่ต้องดื่มอย่างพอประมาณ เลือกแบบหวานน้อย และอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ รักตัวเองห่วงใยสุขภาพ แล้วเราจะดื่มด่ำความอร่อยของชานมเย็นได้อย่างสบายใจ

นิ่วในไตมีชื่อเรียกแบบน่ารักๆ ว่า “หินในไต” หรือ “ทรายในไต” แต่ถึงชื่อจะน่ารัก แต่อันตราย รักตัวเองห่างไกลนิ่วด้วยการดื่มชานมอย่างพอดี