สปส. ช่วยเหลือนายจ้าง-ผู้ประกันตน ลดเงินสมทบประกันสังคม ม.33 เหลือ 3% ประกันสังคม ม.39 เหลือ 283 บาท นาน 6 เดือน ในพื้นที่น้ำท่วม 41 จังหวัด เริ่มงวดเดือน ต.ค. 67-มี.ค. 68

3770

16 ต.ค. 67 – นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 41 จังหวัด โดยสำนักงานประกันสังคมลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 33 และนายจ้าง จาก 5% เหลือ 3% และผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 432 บาท เหลือ 283 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่งวดเดือน ต.ค.67 – มี.ค.68 และขยายเวลายื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39
งวดเดือน ก.ย.67 ภายในวันที่ 15 ม.ค.68
งวดเดือน ต.ค.67 ภายในวันที่ 15 ก.พ.68
งวดเดือน พ.ย.67 ภายในวันที่ 15 มี.ค.68
งวดเดือน ธ.ค.67 ภายในวันที่ 15 เม.ย.68

ทั้งนี้ จะเร่งรัดนำร่างประกาศกระทรวงแรงงานเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป

โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำหรับกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย ผู้ประกันตนสามารถได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน นอกจากนี้ ยังได้กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อดูแลผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคไตและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยขยายระยะเวลาวันเริ่มมีสิทธิกรณีบำบัดทดแทนไต และยา Erythropoietin สามารถย้อนหลังเกินกว่า 30 วันก่อนวันผู้ประกันตนยื่นคำขอ กรณีฟอกเลือดน้อยกว่าครั้งละ 4 ชม. และหรือน้อยกว่า 2 ครั้ง/สัปดาห์ สามารถเบิกค่าบริการทางการแพทย์ได้ รวมทั้งสามารถเบิกกรณีฟอกเลือดได้เกินอัตราที่กำหนดเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 2,000 บาท/ครั้ง และจ่ายค่าบริการทางการแพทย์หลังการปลูกถ่ายไตให้สถานพยาบาลอื่นที่ให้บริการตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด และในกรณีมีค่าบริการทางการแพทย์นอกเหนือจากที่กำหนดสามารถส่งเรื่องหารือคณะกรรมการการแพทย์ได้

“นอกเหนือจากนายจ้างและผู้ประกันตนแล้ว ท่านพิพัฒน์ยังคำนึงถึงการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และเครือข่ายผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่ได้รับผลกระทบด้วย โดยสำนักงานประกันสังคมได้มอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย รวมกว่า 490 ราย พร้อมทั้งสนับสนุนรถบรรทุก 6 ล้อ เพื่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และการเข้าถึงผู้ประสบภัย ขณะเดียวกันก็ได้กำชับให้ปลัดกระทรวงแรงงานดูแลขวัญกำลังใจและมอบสิ่งของที่จำเป็นแก่บุคลากรของกระทรวงแรงงานทั่วประเทศ ทั้งที่เป็นผู้ประสบภัยและผู้ที่ปฏิบัติงานช่วยเหลือนายจ้าง ลูกจ้าง และประชาชน อย่าให้ขาดตกบกพร่องด้วย” นายภูมิพัฒน์ กล่าว