“อนุทิน” มอบนโยบาย ขรก.มหาดไทย กำชับ “พ่อเมือง” ทำงานไม่มีวันหยุด เร่งรัด “น้ำดื่มสะอาด” ขีดเส้นประเมินผลงานทุก 3 เดือน

10

16 ต.ค. 67 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายของผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้บริหารระดับสูง ผู้ว่าราชการจังหวัด และ บุคลากรกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุม

5.4

นายอนุทิน กล่าวว่า แม้กระทรวงมหาดไทยจะมีรัฐมนตรีช่วยว่าการคนใหม่ 2 คน แต่ก็ไม่ได้เป็นชุดใหม่ทั้งหมด และยังคงสานต่อนโยบายที่ต่อเนื่องจากรัฐบาลที่แล้ว ดังนั้นจึงขอให้ ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ รวมถึงผูว่าราชการจังหวัด ร่วมกันขับเคลื่อน 11 นโยบายที่เคยมอบไว้ แต่ครั้งนี้ ให้เน้นใน 5 นโยบายหลักคือ
1) การจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล
2) การปราบปรามและป้องกันยาเสพติด
3) การสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน
4) การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน
5) น้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน

โดยทั้ง 5 นโยบายนี้จะนำไปสู่เป้าหมายสำคัญของกระทรวงมหาดไทยคือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ซึ่งนั่นก็คือการ ทำคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดี ขึ้น ใน 3 ด้านได้แก่ คุณภาพชีวิตด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และความสะดวกสบาย

5.5

นายอนุทิน กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานทั้งหมดนี้ จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกลไกที่สำคัญ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดหากเป็นสมัยก่อนจะถูกเรียกว่า “พ่อเมือง” ที่มีความหมายลึกซึ้ง เพราะพ่อเมือง เปรียบเหมือนพ่อบ้าน หรือหัวหน้าครอบครัว หัวใจของพ่อเมืองจึงไม่ต่างจากหัวใจของหัวหน้าครอบครัว หมายความว่าความเป็นพ่อเมืองไม่มีวันหยุด ไม่มีวันหยุดพัก ที่จะคิดถึงความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของคนในบ้าน ไม่มีทางที่จะเชื่องช้า เฉื่อยชา กับความทุกข์ร้อนของคนในครอบครัว โดยเฉพาะในยามมีภัย ไม่มีวันที่จะขี้เกียจ เมื่อคนในบ้านยังยากจนหิวโหย มีแต่จะต้องหาทางเพิ่มรายได้ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตให้กับคนในบ้าน

นายอนุทิน กล่าวว่า ให้ทุกหน่วยงานดูแลเรื่องของการปรับแผนงานในปีงบประมาณ 2568 ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ให้ครอบคลุมทุกนโยบายข้างต้น โดยเฉพาะนโยบายเรื่องน้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน พร้อมทั้งจะมีการติดตามประเมินการทำงานในทุก ๆ ไตรมาส หรือทุก 3 เดือนเพื่อให้ทุกจังหวัดและหน่วยงานได้มีโอกาสในการทบทวนข้อบกพร่อง และพัฒนาการทำงานได้อย่างทันท่วงที