9 ธ.ค. 67 – นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การเดินทางด้วยรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเช่าเหมา) ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษาต่างๆ ที่มีการพานักเรียนไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมอื่นนอกสถานศึกษาเป็นครั้งคราว รวมถึงหน่วยงานที่จัดกิจกรรม พาผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในที่พักออกนอกสถานที่ เนื่องจากรถโดยสารดังกล่าวมีขนาดและประเภทรถให้เลือกตามความเหมาะสมกับการเดินทาง กรมการขนส่งทางบกในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับ ดูแล การขนส่งทางถนนให้มีความปลอดภัย เล็งเห็นว่าการเดินทางด้วยรถโดยสารไม่ประจำทาง เพื่อไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมนอกสถานศึกษาของนักเรียนและผู้สูงอายุที่เป็นหมู่คณะ มีความจำเป็นต้องจัดให้มีผู้ดูแลเพื่อให้การช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวตลอดการเดินทาง รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ เพื่อความปลอดภัยภายในรถโดยสารก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเผชิญเหตุได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และช่วยลดความสูญเสีย
โดยกรมการขนส่งทางบกได้นำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนดให้มีผู้ประจำรถสำหรับรถโดยสารไม่ประจำทางที่มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 21 ที่นั่งขึ้นไป ที่นำไปให้บริการนักเรียนและผู้สูงอายุ โดยคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ในการประชุมครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ได้มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับจำนวนผู้ประจำรถสำหรับการขนส่งไม่ประจำทาง ด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร เพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และออกประกาศฯ เรื่อง กำหนดและปรับปรุงเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร ตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อกำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถโดยสารต้องจัดให้มีผู้ประจำรถ ได้แก่ ผู้บริการ อย่างน้อย 1 คน สำหรับรถโดยสารไม่ประจำทางที่มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 21 ที่นั่งขึ้นไป ในกรณีให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางสำหรับนักเรียนไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมอื่นนอกสถานศึกษาเป็นครั้งคราว ที่ไม่ใช่การรับส่งจากที่พักอาศัยไปยังสถานศึกษา รวมถึงการให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางสำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในที่พักที่หน่วยงานจัดขึ้น เช่น ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์หรือสถานประกอบกิจการการดูแลผู้สูงอายุที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมอื่นนอกที่พักอาศัยดังกล่าวเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกกำชับให้ผู้ประกอบการขนส่งปฏิบัติตามประกาศฯ ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป