สืบนครบาล จับนักท่องเที่ยวต่างชาติกระทำอนาจาร ใช้มือตีก้นสาวในร้านสะดวกซื้อ อ้างทำบ่อยไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย

5

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 68 เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนจับกุมตัว นายปิโอเตอร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี สัญชาติโปแลนด์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 63/2568 ลงวันที่ 14 ม.ค.68 ข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น เกิดต่อหน้าธารกำนัล” (สน.ทุ่งมหาเมฆ) โดยจับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าห้องพัก ชั้น 36 คอนโดแห่งหนึ่ง ริมถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์กล่าวคือ ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านสาทร ผู้เสียหายเป็นผู้หญิง เธอกำลังเลือกซื้อสินค้าภายในร้านสะดวกซื้ออยู่ ได้มีผู้ต้องหาเป็นชายชาวต่างชาติเดินมาตีก้นเธออย่างแรง เธอตกใจ จึงหันมองว่าเป็นใคร ในใจคิดว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักมาแกล้งเธอเล่น แต่เมื่อมองไปกลับเป็นชายชาวต่างชาติที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน ขณะนั้นเธอหันไปดูรอบๆ เห็นลูกค้าคนอื่นๆ และพนักงานร้านสะดวกซื้อยืนจ้องมาที่เธอ ทำให้เธอรู้สึกถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ว่าเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่า เธอจึงรีบเดินออกจากร้านสะดวกซื้อไปด้วยความอับอาย

จากนั้นเธอได้ปรึกษาคนรู้จักจนทราบว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิด จึงเดินทางไปยัง สน.ทุ่งมหาเมฆเพื่อเข้าแจ้งความ แต่เธอไม่ได้ต้องการสิ่งใดนอกจากคำว่า “ขอโทษ” จากผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ จึงออกหมายเรียกผู้ต้องหาคนดังกล่าว และแจ้งผ่านเอเจ้นท์ที่ผู้ต้องหาเช่าห้องอยู่ เพื่อให้มีชี้แจงและไกล่เกลี่ยให้ผู้ต้องหามาขอโทษเธอ ตามที่เธอต้องการ แต่ผู้ต้องหาไม่มา กลับบอกผ่านเอเจ้นท์ว่า “ตนเองไม่ได้ตีแรง และเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้งตอนไปเที่ยวสถานบันเทิง ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไร และคิดว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิด การกระทำแค่นี้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ เดี๋ยวตนเองก็บินกลับต่างประเทศแล้ว” ด้วยคำพูดของผู้ต้องหาที่ไม่ได้สำนึกกับการทำผิด คิดว่าจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ประกอบกับความอับอายที่เธอรู้สึก จึงแจ้งความประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ เข้าใจในหัวอกความเป็นผู้หญิงด้วยกัน จะไม่ยอมให้ใครมารังแก ดูหมิ่นศักดิ์ศรีของผู้หญิง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลได้รับประสานให้ช่วยจับกุมตัวผู้ต้องหา จึงสืบสวนและเดินทางไปที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านสาทรที่ผู้ต้องหาพักอยู่ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นผู้กองโชแปงได้แสดงหมายจับและแจ้งสิทธิผู้ต้องหาเป็นภาษาอังกฤษให้ทราบ จนผู้ต้องหาเข้าใจ จากนั้นจึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาไม่ขอให้การเกี่ยวกับคดี แต่ยอมรับว่าบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูเป็นตนเองที่เดินไปตีก้นผู้หญิงตามภาพจริง เคยตีก้นลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งตามสถานบันเทิง แต่ครั้งนี้ที่ไม่ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และไม่ผิดกฎหมาย หลังจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป