25 ม.ค. 68 – นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหาร แถลงข่าวประเด็นการดูแลสุขภาพจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 และได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาบรรเทาสถานการณ์ให้ดีขึ้นโดยเร็ว ซึ่งในวันนี้ มีจังหวัดที่มีค่าฝุ่นระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ เพิ่มขึ้นจาก 15 จังหวัดเป็น 21 จังหวัด จึงได้สั่งการให้หน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศเข้ม 5 มาตรการ ได้แก่
1.เตรียมพร้อมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยเปิดศูนย์ปฏิบัติการฯ ในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแล้ว 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำพูน พิษณุโลก สุโขทัย นนทบุรี สระบุรี เพชรบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และประจวบคีรีขันธ์ ในสำนักงานเขตสุขภาพที่ 2 และ 4 รวมทั้งกรุงเทพมหานคร
2.เร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกและสร้างความรอบรู้ภัยสุขภาพ โดยส่วนกลางเปิดศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ ฝุ่น PM2.5 เผยแพร่ความรู้สุขภาพเป็นประจำ ในพื้นที่มอบหมายสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ อสม. เผยแพร่ข่าวสาร แนวทางปฏิบัติในการป้องกันตัวเองแก่ประชาชน รวมถึงสอบถามผ่านสายด่วนกรมอนามัย 1478 และสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
3.จัด “ทีมพิเศษฉุกเฉินสุขภาพ” ระดับจังหวัด 76 ทีม และระดับอำเภอ 878 ทีม ดูแลกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่ม รวม 178,773 ราย ประกอบด้วย เด็กเล็ก 29,982 ราย ผู้สูงอายุ 137,622 ราย หญิงตั้งครรภ์ 2,305 ราย ผู้มีโรคหัวใจ 3,857 ราย และผู้มีระบบทางเดินหายใจ 5,007 ราย
4.จัดบริการด้านการแพทย์สาธารณสุขให้ครอบคลุม โดยเตรียมเสนอมาตรการ Work Form Home และงดกิจกรรมกลางแจ้งของประชาชน รวมทั้งจัดบริการคลินิกมลพิษ คลินิกมลพิษออนไลน์ เปิดระบบนัดหมายล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม จัดห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์พัฒนาเด็กและโรงเรียน อาคารสำนักงาน และสถานประกอบการภาคเอกชน รวม 5,517 ห้องทั่วประเทศ รองรับกลุ่มเสี่ยงได้ 964,433 ราย สนับสนุนมุ้งสู้ฝุ่น 1,340 ชุด ใน 35 จังหวัดเสี่ยงสูง และเตรียมกระจายให้ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่เสี่ยงสูง 37,569 ราย ในเขตสุขภาพ ที่ 1, 2, 3, 4, และ 8
5.สนับสนุนอุปกรณ์เวชภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ หน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้ง 180,900 ชิ้น และหน้ากาก N95 จำนวน 1,096,700 ชิ้น โดยหน่วยงานในพื้นที่สำรองหน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้ง 6,887,938 ชิ้น และหน้ากาก N95 จำนวน 601,412 ชิ้น เพียงพอสำหรับใช้ต่อเนื่องได้ 2 เดือน นอกจากนี้ ยังสามารถขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) ในการจัดหาอุปกรณ์ให้กับหน่วยบริการสาธารณสุข องค์กร หรือกลุ่มประชาชนได้อีกทางหนึ่ง
นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการสำรวจอนามัยโพล เรื่อง “ฉลองตรุษจีน วิถีใหม่ ห่างไกลฝุ่น PM2.5” ระหว่างวันที่ 1-23 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ในกลุ่มเป้าหมาย 668 คน พบว่า จะทำกิจกรรมไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ มากที่สุด ร้อยละ 35.8 รองลงมา ไปซื้อของไหว้ในวันจ่าย ร้อยละ 30.2 และไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ กับครอบครัว ร้อยละ 18.1 สำหรับกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น มีผู้ที่ตอบว่าจะจุดธูป จุดเทียน ร้อยละ 13.3 เผากระดาษเงิน/ทองและสิ่งของที่เป็นกระดาษเพื่อไหว้บรรพบุรุษ ร้อยละ 10.5 และจุดประทัดร้อยละ 5.2 ตามลำดับ ส่วนการป้องกันตนเองจากฝุ่น PM2.5 ส่วนใหญ่จะสวมหน้ากากกันฝุ่น ร้อยละ 67.9 รองลงมา เช็ดทำความสะอาดบ้าน ที่พักอาศัยให้สะอาด ปลอดฝุ่น ร้อยละ 41.8 และมีผู้ที่จะไม่จุดธูป ไม่เผากระดาษเงินกระดาษทอง ร้อยละ 45.9
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถช่วยลดฝุ่นละอองในสิ่งแวดล้อมได้ โดยเลือกใช้ธูปไฟฟ้า หรือธูปขนาดสั้น และดับธูปให้เร็วขึ้น เลี่ยงการจุดธูปหรือเผากระดาษเงิน กระดาษทองในบริเวณที่อับ/อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ส่วนวัดหรือศาลเจ้า ควรตั้งกระถางธูปไว้นอกอาคารหรือพื้นที่มีอากาศถ่ายเท ลดจำนวนการจุดประทัด รวมทั้งระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น