แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน คณะแพทยศาสตร์ มช. แนะประชาชนควรเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย ในช่วงที่อุณหภูมิลดฮวบ อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย เตือนนักดื่มควรระวัง ดื่มแอลกอลฮอล์เพื่อคลายหนาว เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
ผศ.นพ.อมรพัฐ กิจโร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่มีโรคประจำตัว เนื่องจากร่างกายไม่สามารถตอบสนองให้เกิดความอบอุ่นได้ดีเพียงพอ ภาวะที่น่ากลัวคือ ภาวะตัวเย็น หรือ hypothermia มักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายสัมผัสกับอากาศเย็นเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายเริ่มจะสูญเสียความร้อนเร็วกว่าที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาได้ อาการเริ่มแรกจะพบว่าร่างกายหนาวสั่นทั้งตัว จนสุดท้ายทำให้ระบบประสาททำงานลดลง ซึม และเข้าสู่ระยะโคม่า จนทำให้เสียชีวิตได้ ในบางรายอาจมีอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับความเย็น ที่ไม่ร้ายแรง เช่น ภาวะชิลเบลนส์ (Chilblain)ที่เกิดจากความเย็น ส่งผลต่อหลอดเลือดฝอย บริเวณผิวหนัง ทำให้เกิดอาการแดง หรือคัน โดยเฉพาะบริเวณที่สัมผัสกับอากาศเย็น เช่น บริเวณปลายนิ้วมือ หรือนิ้วเท้า แก้ม หู ถ้ามีอาการเหล่านี้ แนะนำให้รักษาบริเวณเหล่านี้ให้อบอุ่น ร่วมกับใช้ครีมทาเพื่อลดอาการคัน และพยายามหลีกเลี่ยงการเกา นอกจากนี้ยังมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ควรระวังในช่วงหน้าหนาว โดยเฉพาะ โรคทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หลอดลมอักเสบ หรือโรคปอดอักเสบ และโรคทางระบบผิวหนัง เช่น ผิวแห้งและแตก เนื่องจากความชุ่มชื้นบริเวณผิวหนังลดลง
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน กล่าวเพิ่มเติมว่า ความเชื่อที่ว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่อากาศหนาวจัด จะช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้น ความจริงแล้วการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงอากาศหนาวไม่ได้ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นอย่างแท้จริง เป็นเพียงความรู้สึกอุ่นขึ้นชั่วคราว เนื่องจากแอลกอฮอล์เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดจึงมาบริเวณที่ผิวหนังมากขึ้น ทำให้ความร้อนในร่างกาย ถูกระบายออกทางผิวหนังมากขึ้น บางรายมีผิวที่แดงขึ้น ซึ่งกระบวนการนี้ จะส่งผลให้ร่างกายสูญเสียความร้อนเร็วมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะตัวเย็นเกินหรือ hypothermia นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง (central nervous system) โดยเฉพาะคนที่ดื่มในปริมาณมาก ทำให้การตอบสนองของร่างกาย ต่ออุณหภูมิเย็นลดลงได้ รวมถึงการอาบน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำเย็นจัดในช่วงหน้าหนาว อาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะหัวใจเต้นเร็วขึ้น หายใจเร็วและตื้น และอาจจะเพิ่มโอกาสในการเกิดภาวะตัวเย็นเกิน รวมถึงผิวแห้งและไวต่อการระคายเคือง เมื่ออาบน้ำเย็นในสภาพอากาศที่หนาวจัด หรืออาบเป็นเวลานาน
ดังนั้นในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น แนะนำให้ประชาชนปฏิบัติตัวโดยการรักษาความอบอุ่น สวมใส่เสื้อผ้าหลายชั้นที่มีคุณสมบัติกันความเย็น อาจพิจารณาเพิ่มการใส่ถุงมือ ถุงเท้า หรือหมวกเพื่อเพิ่มความอบอุ่นบริเวณปลายมือปลายเท้า ดูแลสุขอนามัยด้วยการล้างมือบ่อยครั้ง ใช้หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อทางเดินหายใจ หรือรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ รวมไปถึงทาครีมบำรุง เพื่อลดปัญหาผิวแห้ง ออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแรงของระบบไหลเวียนเลือดและภูมิคุ้มกัน และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น งดการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากส่งผลเสียต่อระบบไหลเวียนเลือด และการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ระวังเรื่องการจุดไฟเผา เพื่อให้ความอบอุ่นหรือต้มน้ำร้อน ในห้องปิดเนื่องจากจะทำให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้
ติดตามผ่านทาง Facebook : https://cmu.to/NrtKe
เรียบเรียง : นางสาวสมัชญา หน่อหล้า
ภาพ/ข่าว : สื่อสารองค์กร งานประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่