4 ก.พ. 68 – ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. เป็นประธานการประชุมหารือการปรับวันเปิด-ปิด ภาคเรียน เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารส่วนราชการในปัจจุบัน ร่วมกับหน่วยงานภายในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักการศึกษา กทม. กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมพลศึกษา ตำรวจตระเวนชายแดน โดยมีคณะผู้บริหาร สพฐ. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม สพฐ. 2 อาคาร สพฐ. 5 ชั้น 9 และผ่านระบบ zoom meeting
ที่ประชุมได้ร่วมกันวิพากษ์ประเด็นการเลื่อนวันเปิด – ปิดภาคเรียน พบว่า กรณีปิดภาคเรียนภายในเดือนกันยายนส่งผลกระทบในทิศทางที่ดี เนื่องจากเด็กได้ปิดเทอมเต็มเดือนจะเรียนต่อหรือทำกิจกรรมได้สะดวกกว่าปิดคร่อมเดือน การบริหารงานบุคคลก็สามารถบริหารได้ทันห้วงเวลากับครูเกษียณอายุราชการ การบริหารงานจัดซื้อจัดจ้างก็จะเป็นไปภายในปีงบประมาณเดียวกัน ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบแนวทางการเปิด – ปิดภาคเรียน โดยยังคงการเปิดภาคเรียนไว้เป็นวันที่ 16 พฤษภาคมเช่นเดิม เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการนับอายุเด็กเข้าเรียน และให้เลื่อนวันปิดภาคเรียนจากเดิมเดือนตุลาคม เป็นปิดภาคเรียนภายในเดือนกันยายน (30 ก.ย.) เพื่อให้สอดคล้องกับปีงบประมาณของการบริหารส่วนราชการ ทั้งนี้ สพฐ.จะเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอแนวทางดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต่อไป
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนที่ได้ประโยชน์แก่ผู้เรียน ผู้ปกครอง ให้นักเรียนของเราได้เรียนดี มีความสุขตามนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงว่าการศึกษาธิการ (พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ) รวมถึงหน่วยงานราชการทุกฝ่ายก็จะได้ประโยชน์ร่วมกันในการบริหารให้สอดคล้องกับปีงบประมาณ และสอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนตามนโยบายเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา Credit bank และนโยบายที่กระทรวงกำลังดำเนินการอยู่หลายอย่าง ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
