เด็กไทยอ้วน ติดอันดับ 3 ของอาเซียน สธ. เตรียมแก้ปัญหาเปลี่ยนระบบใหญ่ลดเสี่ยงโรคอ้วน ห่างไกล NCDs

11

5 มี.ค. 68 – นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคอ้วนเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทุกกลุ่มวัย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย จิตใจ สังคม และเศรษฐกิจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนนโยบายคนไทยห่างไกลโรค NCDs มุ่งเน้นส่งเสริมวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพ การป้องกันและควบคุมปัญหาโรคอ้วนนับเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยน 4 ระบบ ได้แก่
1) เปลี่ยนระบบอาหารในสถานศึกษา ให้มีคุณภาพมากขึ้น
2) เปลี่ยนการตลาดอาหารให้ลดหวาน มัน เค็ม
3) เปลี่ยนระบบบริการสุขภาพ มีการคัดกรองด้านโภชนาการ เพื่อให้ผู้ที่เป็นโรคอ้วนได้รับการส่งต่อและดูแลอย่างเหมาะสม
4) เปลี่ยนสภาพแวดล้อมเพิ่มการมีกิจกรรมทางกาย เพื่อลดความเสี่ยงโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในทุกกลุ่มวัย

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยมีนโยบายส่งเสริมสุขภาพประชาชนลด NCDs ซึ่งการป้องกันและควบคุมปัญหาโรคอ้วนในเด็ก เป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงของโรค NCDs ในอนาคต กรมอนามัยจึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ภายใต้คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายป้องกันและควบคุมปัญหาโรคอ้วนในเด็ก เพื่อให้เกิดการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน และขับเคลื่อนนโยบายอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

จากผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยในเด็กและเยาวชน พบว่า ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนในเด็ก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเด็กเล็กอายุ 1-5 ปี มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.8 เป็นร้อยละ 10.6 และเด็กวัยเรียนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.8 เป็นร้อยละ 15.4 ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยยังมีเด็กเป็นโรคอ้วนสูงเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มอาเซียน รองจากมาเลเซียและบรูไน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่ โดยข้อมูลล่าสุดจากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย ปี 2563 พบว่า ประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป เป็นโรคอ้วนสูงถึงร้อยละ 42.4 ทั้งนี้ พฤติกรรมการบริโภคอาหาร กิจกรรมทางกาย สภาพแวดล้อม และระบบบริการสุขภาพ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอ้วนและโรค NCDs