(มีคลิป Video) เทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ ลุยตรวจตาชั่งแม่ค้าลองกองหลังตกเป็นข่าวว่ามีการโกงตาชั่ง ยันไม่พบสิ่งผิดปกติ คาดอาจเกิดจากความผิดพลาดของผู้ค้าที่มีการรีบชั่งรีบตวง ทำให้น้ำหนักคาดเคลื่อน
วันที่ 15 มิถุนายน 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพและคลิปเหตุการณ์ที่ทางเจ้าตัวได้ไปซื้อผลไม้ภายในย่านตลาดวโรรส กลางเมืองเชียงใหม่ แต่กลับถูกแม่ค้าภายในตลาดดังกล่าวโกงตาชั่ง น้ำหนักไม่ถึงตามราคาที่ซื้อไป โดยจากคลิปทางเจ้าของโพสต์ได้เดินออกมาจากบริเวณจุดที่ซื้อผลไม้ข้ามฟากถนนห่างกันมาเพียงไม่กี่ก้าวเท้า แล้วมาขอชั่งตราชั่งกับทางแม่ค้าฝั่งตรงข้าม หลังจากที่เจ้าตัวได้ซื้อลองกองมา 1 กิโลกรัม แต่เมื่อนำลองกองที่แม่ค้าใส่ถุงมาชั่งกับตาชั่งของแม่ค้าอีกฝั่งปรากฎว่าน้ำหนักเหลือเพียง 8 ขีด หายไป 2 ขีด และหลังจาหนั้นได้นำเรื่อราวดังกล่าวมาโพสต์ลงในโซเชียลจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบให้เกิดความถูกต้องเนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นการเอาเปรียบประชาชนและกลายเป็นเรื่องเสื่อมเสียต่อพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้กับภาพลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ด้วย ตามที่ปรากฎเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันนี้ (15 มิ.ย. 63) ทางด้าน นายณัฐฐชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้แจ้งประสานให้ทางเจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงพื้นที่เข้าทำการตรวจสอบดกี่ยวกับกรณีดัวกล่าวที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่ทราบข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ทำการตรวจร้านค้าดังกล่าวที่ปรากฎภายในคลิป ซึ่งขณะนั้นมีแม่ค้า 2 คน ขายผลไม้ลองกองอยู่จริงซึ่งมีลักษณะตรงตามที่ชายภายในคลิปได้ระบุไว้ โดยทางเจ้าหน้าที่เทศกิจได้มีการตรวจวัดตาชั่งที่คนขายใช้อยู่เพื่อความบริสุทธิ์ใจ โดยผลการตรวจพบว่าไม่มีความผิดปกติแจ่อย่างใด พร้อมทั้งได้มีการพูดคุยสอบถามกับทางด้านคนขายยืนยันว่าไม่ได้มัเจตนาหลอกลวงหรือคดโกงแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่เทศกิจยังได้มีการสุ่มตรวจตาชั่งของทางด้าน พ่อค้า-แม่ค้า รายอื่นๆ ภายในพื้นที่เพื่อตรวจจับความผิดปกติอีกด้วย ซึ่งผลปรากฎว่าไม่พบตาชั่งของบรรดา พ่อค้า-แม่ค้า ตัวใดมีความผิดปกติแต่อย่างใด และจากกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นภายในคลิป และที่เป็นข่าวออกมานั้นอาจเกิดจากความผิดพลาดของผู้ค้าที่มีการรีบชั่งรีบตวง และตรวจสอบไม่ถี่ถ้วน ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักคลาดเคลื่อน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันขึ้น
ทั้งนี้ทางด้าน นายพีระพล ไชยเทพ ผู้ช่วยเจ้าพนักงานเทศกิจ งานรักษาความสงบเรียบร้อย และความมั่นคง ฝ่ายปกครอง สำนักปลัด เทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภายหลังจากกรณีดังกล่าวปรากฎออกไปนั้น ทางเจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อทราบข่าวก็ได้มีการดำเนินการเข้าตรวจสอบโดยทันที โดยจากผลการลงตรวจในวันนี้พบว่าบริเวณจุดที่ปรากฎภายในคลิปนั้นเป็นร้านขายลองกองซึ่งตั้งอยู่บนทางเท้าด้านตลาดวโรรส ซึ่งเป็นพื้นที่ผ่อนผันของทางเทศบาลนครเชียงใหม่ รวมกับทางจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ค้าขายจะมีรายชื่ออยู่ในทะเบียนรายชื่ออยู่แล้ว และ 1 ปี ผู้ค้าที่อยู่ในพื้นที่ผ่อนผัน จะต้องยื่นคำร้องต่อใบอนุญาติกับทางเทศบาลนครเชียงใหม่ปีละ 1 ครั้ง โดยมีการเสียชำระค่าธรรมเนียมปีละ 500 บาท และมีหลักเกณฑ์เงท่อนไขทั้งหมด 16 ข้อ ดังนั้นทางผู้ค้าจะคำนึงเสมอถึงหลักการปฏิบัติต่างๆ โดยพื้นที่ผ่อนผันของเทศบาลนครเชียงใหม่จะมี 3 จุดคือ ไนท์บาซ่า , กาดหลวง และถนนคนเดิน
อย่างไรก็ตามในส่วนของกรณีที่เกิดขึ้นนี้ทางเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ก็ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบ และเข้ามาตรวจในส่วนของร้านที่ประชาชนร้องเรียนตามที่ปรากฎภายในโซเชียล ซึ่งจากผลการตรวจสอบพบว่าตาชั่งของร้านตรงตามมาตรฐาน และถูกต้องตามน้ำหนักจำนวน ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นนั้นคาดว่าอาจจะเกิดจากความคลาดเคลื่อนในเรื่องของการวางมือเวลาชั่งตวง เช่น เวลาตักเข้าไปแล้วผู้ค้ารีบวางรีบยก ทำให้ตาชั่งยังไม่นิ่งและน้ำหนักจึงคลาดเคลื่อน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลนครเชียงใหม่ให้ความสำคัญอย่างมากในการตรวจสอบการกระทำผิดของผู้ค้าในพื้นที่ โดยตาชั่งของผู้ค้าทุกร้านจะมีการติดสติ๊กเกอร์ยืนยันจากกรมการค้าภายในที่เป็นการยืนยันว่าผ่านมาตรฐานการตรวจสอบแล้ว ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะมีการลงโทษซึ่งอาจจะมีการให้พักการจำหน่ายสินค้าหรือหากลงโทษด้วยการพักจำหน่ายสินค้าแล้วยังไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก็อาจจะมีการยกเลิกการต่อใบอนุญาติประจำปี
ขณtที่ทางด้านแม่ค้าซึ่งเป็นเจ้าของตาชั่งที่ชายปรากฎภายในคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว เล่าว่า ในวันเกิดเหตุนั้นชายคนดังกล่าวได้เดินมาที่ร้านของตนและขอใช้ตาชั่งจริง ซึ่งบอกกับตนว่าได้ไปซื้อลองกองที่ร้านฝั่งตรงข้าม เลยอยากลองชั่งดูว่าได้น้ำหนักตรงหรือไม่ ซึ่งขณะนั้นตนก็ได้ให้ชายคนดังกล่าวลองชั่งดู พอวางของในถุงลงก็พบว่ามี 8 ขีด ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเดินไป ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ได้มาตรวจสอบตาชั่งของตัวเองเช่นกัน
โดยจากการตรวจสอบตาชั่งซึ่งเป็นของร้านที่ชายคนดังกล่าวได้นำลองกองไปชั่งหลังจากซื้อมาแล้วนั้นพบว่า มีความคลาดเคลื่อนไป 1 ขีด จากการวัดน้ำหนักของผลไม้ตัวอย่าง ซึ่งอาจเกิดจากความคลาดเคลื่อนของเครื่องชั่ง เนื่องจากทางแม่ค้าเจ้าของนั้นระบุว่าได้ไปซื้อตาชั่งมาใหม่ และยังไม่ได้มีการตรวจตรามาตรฐานของกรมการค้าภายใน ประกอบกับชายคนดังกล่าวที่ปรากฎภายในคลิปได้มาชั่งในวันนั้นอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตามจากกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลนครเชียงใหม่ จึงได้มาดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้เกิดข้อเท็จจริงและเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น