เจ้าคณะ​อำเภอ​เมือง​เชียงใหม่​ ยืนยันว่า พระสงฆ์​ปาร์ตี้​หมูกระทะ-เบียร์​ ลาสิกขาแล้ว หลังทนกระแสข่าวไม่ไหว เผยในทางสงฆ์ถือว่าจบแล้ว พร้อมกำชับเตือนพระสงฆ์​ทุกรูปห้ามมีพฤติกรรม​แบบนี้อีก

2078

เจ้าคณะ​อำเภอ​เมือง​เชียงใหม่​ ยืนยันว่า พระสงฆ์​ปาร์ตี้​หมูกระทะ-เบียร์​ ลาสิกขาแล้ว หลังทนกระแสข่าวไม่ไหว เผยในทางสงฆ์ถือว่าจบแล้ว พร้อมกำชับเตือนพระสงฆ์​ทุกรูปห้ามมีพฤติกรรม​แบบนี้อีก

​ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ นำกำลังเข้าตรวจสอบกุฏิสงฆ์ภายในวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการจัดปาร์ตี้ล้อมวงกินหมูกระทะ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงกลางดึกหลังมีการร้องเรียนจากชาวบ้าน และจากการตรวจสอบตามข้อร้องเรียน พบเจ้าอาวาสวัดและพระลูกวัดรวม 7 รูป และ ฆราวาสอีก 1 คน กำลังนั่งล้อมวงจัดปาร์ตี้หมู อีกทั้งพบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุ จึงได้มีการดำเนินคดี และช่วงเช้าของวันที่ 30 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ทางเจ้าอาวาสและพระลูกวัดทั้งหมดได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการปล่อยตัว

(มีคลิป Video) บุกจับพระวัดดังเชียงใหม่ เปิดกุฏิตั้งวงก๊งเหล้า กับแกล้มเพียบทั้งหมูกระทะ-ชาบู

และต่อมาในช่วงเย็น หลังการนำส่งฟ้องศาลได้พิจารณาจากพยานหลักฐาน พิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งแปดคนเป็นเวลาคนละ 15 วันและปรับคนละ 10,000 บาท ตามความผิดฐานรวมตัวมั่วสุมจัดกิจกรรม เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ตาม พร.ฉุกเฉิน โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้เป็นเวลาหนึ่งปี นอกจากนี้ ศาลยังสั่งปรับ พระครูปลัดสุเดช , พระครูมนูธรรมศาสถ์พุทธกร , พระอธิฐณัฏฐ์ และ นายสหการ ที่ถูแจ้งข้อหาเพิ่มในข้อหาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาอันเป็นความผิดตาม พร.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เป็นเงินคนละ 12,500 บาท แต่มีข้อมูลว่าทั้งหมดไม่ยอมลาสิกขา ในช่วงค่ำคืนวานนี้ (31 ส.ค.64) ตามที่ปรากฏข้อมูลไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

> ตำรวจนำพระวัดดังเชียงใหม่ส่งฟ้องศาล หลังปาร์ตี้ตั้งวงหมูกระทะแกล้มเบียร์ ทั้งหมดยังไม่ลาสิกขา ด้านเจ้าคณะอำเภอสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง

ขณะที่ล่าสุด เช้าวันนี้ (31 ส.ค.64) ความคืบหน้าล่าสุด ทางผู้สื่อข่าวได้รังรายงานว่าพระสงฆ์ทั้ง 7 รูป ประกอบด้วย 1.พระครูปลัดสุเดช สายแผ่เยือง อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดยางกวง .หายยา .เมืองเชียงใหม่ , 2.พระครูมนูธรรมศาสถ์พุทธกร วิมุติญาณกุ อายุ 41 ปี เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย .ช้างคลาน .เมืองเชียงใหม่ , 3.พระอธิษฐณัฏฐ์ ปัญญาอินแก้ว อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านปิง .ศรีภูมิ .เมืองเชียงใหม่ , 4.พระภานุกร คำป็อก อายุ 42 ปี เจ้าอาวาสวัดปันเสา , 5.พระใบฏีกายนนนท์ ปัญญาโตยานนท์ประทุม อายุ 35 ปี 6.พระทักษิณ ศรีธิ อายุ 36 ปี พระลูกวัดปันเสา และ 7.พระสหการ สมศักดิ์ อายุ 25 ปี ได้มีการยื่นหนังสือสมัครลาสิกขา หรือสึกออกจากการเป็นพระถึงเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ และได้ทำการสึกที่วัดอุปคุต .ช้างคลาน .เมือง .เชียงใหม่ เมื่อค่ำคืนที่ผ่าน

พระราชรัชมุนี​ เจ้าอาวาส​วัดสวนดอกพระอารามหลวง​ เจ้าคณะอำเภอเมือง​เชียงใหม่

โดยพระราชรัชมุนี​ เจ้าอาวาส​วัดสวนดอกพระอารามหลวง​ เจ้าคณะอำเภอเมือง​เชียงใหม่​ ได้เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือลาสิกขา​ของพระทั้งหมดแล้ว ทางสงฆ์​ถือว่าเสร็จ​สิ้นแล้วไม่ต้องตั้งคณะกรรมการ​สอบสวน เพราะทั้งหมดถือว่าขาดจากการเป็นพระ ส่วนเรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสมาแทน เป็นหน้าที่ของเจ้าคณะตำบลนั้นเป็นผู้แต่งตั้ง และมีการแต่งตั้งรักษา​การไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนทางโลกตามที่ติดตามข่าวตำรวจได้มีการดำเนินคดีแล้ว ส่วนกรณีที่​ว่าจะมีการดำเนินคดี ในส่วนของการทำให้พระพุทธ​ศาสนาเสื่อมเสีย เป็นหน้าที่ของสักนักพุทธ​ฯ​ ดำเนินการต่อ

ในส่วนของพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการผิดวินัยโลกวัชชะหรือโลกติเตียน ไม่เข้าขั้นผิดวินัยร้ายแรงอาบัติปาราชิก 4 ข้อที่ต้องขาดจากการเป็นพระ เพียงแค่ปลงอาบัติหรือภาวนาตน ถือว่าเสร็จสิ้นแล้วสามารถเป็นพระต่อได้ แต่อย่างไรก็ตามถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง และได้มีการกำชับไปเจ้าคณะตำบลทุกตำบล ให้เข้มงวดกวดขันห้ามไม่ให้พระทุกรูปมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะผิดวินัยสงฆ์ และเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา